เชียงใหม่ 9 พ.ย. – ค่ำคืนนี้ที่เชียงใหม่ยังมีประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงคืนสุดท้าย และเป็นคืนที่เป็นจุดเด่นที่สุดของงานในแต่ละปี คือการประกวดขบวนกระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปีนี้มีถึง 15 ขบวน
ขบวนกระทงใหญ่ทั้ง 15 ขบวน ตั้งขบวนกันบริเวณด้านหน้าลานประตูท่าแพ เริ่มด้วยขบวนรถบุษบกอัญเชิญถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นจึงจะเป็นขบวนกระทงใหญ่ที่เข้าร่วมประเพณี 5 ขบวน และที่เข้าประกวดอีก 10 ขบวน ซึ่งมีทั้งขบวนกระทงจากสถาบันการศึกษา หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งขบวนสถานกงสุลในเชียงใหม่ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และกงสุลอินเดีย ที่ส่งขบวนเข้าร่วมประเพณียี่เป็งด้วย ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่เฝ้ารอชมขบวนแห่กระทงใหญ่ในค่ำคืนนี้กันอย่างแน่นขนัด
หลักเกณฑ์การประกวดนอกจากระทงขนาด 4 เมตรแล้ว ต้องมีผู้ร่วมริ้วขบวนแห่ไม่น้อยกว่า 100 คน ทำให้แต่ละขบวนยิ่งใหย่สวยงาม อย่างขบวนของเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งตกแต่งด้วยเรื่องราวสายน้ำปิง ผสมผสานกับตำนานความเชื่อพญานาคราช ประดิษฐานพระพุทธรูปขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนขบวนกระทงขององค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวผางประทีป ที่จุดในประเพณียี่เป็งเพื่อบูชาพุทธศาสนา บูชาเมืองและผู้มีพระคุณ ช่วงประเพณียี่เป็ง เช่นเดียวกับกระทงใหญ่ของหลายขบวน ทั้งขบวนของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ขบวนของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งแต่ละขบวนล้วนสวยงามไม่แพ้กัน
นอกจากความสวยงามของการตกแต่งกระทงแล้ว จุดเด่นของกระทงแต่ละขบวน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญนั่นคือสาวงามที่นั่งกระทงในแต่ละขบวน ซึ่งล้วนแต่สวยงาม หลายขบวนมีสาวงามระดับที่พกมงมาด้วย ทั้งนางสาวไทยปี 2562 นางสาวไทยปี 2563 นางสาวถิ่นไทยงามปี 2565 และอีกหลายคน ยิ่งทำให้ขบวนกระทงดูสวยงามขึ้นอีก
ขบวนกระทงใหญ่ในปะเพณียี่เป็งเชียงใหม่จะเคลื่อนขบวนจากบริเวณประตูท่าแพ ไปตามถนนท่าแพ สลับกับการแสดงจนถึงถนนริมฝั่งลำน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้กรรมการให้คะแนน ตัดสินการประกวดในค่ำคืนนี้ .-สำนักข่าวไทย