ภูเก็ต 23 ต.ค. – ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เห็นชอบเปิดให้เดินเท้าผ่านทางขึ้น-ลงเขาป่าตอง เนื่องจากทางเลี่ยงต้องอ้อมไกล ประชาชนเดือดร้อน ส่วนความคืบหน้าซ่อมพนังลำชีขาด เหลือ 5 เมตรสุดท้าย
วันนี้ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการแก้ปัญหาและซ่อมแซมถนนทางขึ้น-ลงเขาป่าตอง ทางหลวงหมายเลข 4029 ซึ่งปิดสัญจรหลังฝนตกหนักจนเกิดดินสไลด์ ทำให้คันทางทรุดยาว 200 เมตร และสัปดาห์หน้าสถานศึกษาต่างๆ จะเริ่มเปิดเรียนแล้ว ประกอบกับการใช้เส้นทางเลี่ยงเพื่อเดินทางไปมีระยะทางค่อนข้างไกล ประชาชนร้องเรียนถึงความเดือดร้อนในการใช้เส้นทางเลี่ยงไม่ว่าจะเป็นฝั่งกมลาหรือกะตะ-กะรน ไปยังในเมืองภูเก็ตค่อนข้างไกล จึงเห็นชอบให้ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปมาได้ แต่ต้องเดินติดชิดไหล่ทางที่ติดกับเนินเขาให้มากที่สุด และจะทำรั้วกั้นกำหนดเขตอย่างชัดเจน แต่หากมีฝนตกหนักจะสั่งปิดทันที
นอกจากนี้ยังได้จัดทำเส้นทางสำรองการเดินทางระหว่างอำเภอเมืองภูเก็ตไปยังตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ คาดว่าจะใช้เส้นทางหลังวัดหลวงปู่สุภา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้ โดยเมื่อกรมป่าไม้อนุญาต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจะเข้าไปดำเนินการปรับปรุงทางเพื่อให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงเพื่อสัญจรชั่วคราว จากอำเภอเมืองภูเก็ต ไปยังตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ได้ต่อไป
ซ่อมพนังลำชีขาด เหลือ 5 เมตรสุดท้าย
ส่วนพนังกั้นแม่น้ำชีที่ขาดกว่า 50 เมตรในพื้นที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการซ่อมแซมพนังได้แล้ว 45 เมตร จากที่ขาดกว่า 50 เมตร เหลืออีกเพียง 5 เมตรสุดท้าย เท่านั้น ซึ่งการซ่อมช่วงสุดท้ายนี้ยิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีการถมหินบีบพื้นที่เข้ามาแล้ว ทำให้ช่องขาดแคบลงเรื่อยๆ เหมือนคอขวด ยิ่งทำให้กระแสน้ำไหลแรงขึ้นเท่าตัว ต้องดำเนินการซ่อมด้วยความระมัดระวัง แข่งกับเวลา และต้องไปเป็นตามหลักวิศวกรรม รวมทั้งความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานด้วย แต่คาดว่าจะสามารถซ่อมและปิดรอยแตกได้สำเร็จภายในวันนี้
สำหรับความเสียหายที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน แยกเป็น อ.ฆ้องชัย จำนวน 4 ตำบล และ อ.กมลาไสย 2 ตำบล มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น 72,654 ไร่ .-สำนักข่าวไทย