เร่งกู้ถนนประตูระบายน้ำเสนาป้องกันน้ำท่วม รพ.เสนา

ภูมิภาค 18 ต.ค. – อธิบดีกรมชลฯ ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจถนนคันประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดหลังถูกน้ำเซาะขาด ส่วนที่ จ.ชัยนาท ตลาดสรรพยาน้ำยังท่วมสูงและเริ่มเน่าเสีย ส่วนที่สงขลา เตือนระวังโรคฉี่หนู หลังตายแล้ว 4 ราย


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ถนนคันคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ต.รางจระเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อ.เสนา ,อ.บางซ้าย, อ.ลาดบัวหลวง โดยสั่งการให้นำเครื่องจักรกล รวมถึงกล่องหินแกเบียลแล้วนำไปวางบริเวณจุดที่ถนนขาด เพื่อชะลอการไหลของน้ำและอุดรอยรั่วให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งพบว่ารอยขาดมีขนาดกว้างขึ้นประมาณ 8 เมตร หากไม่รีบแก้ไขน้ำที่ทะลักข้ามฝั่งอาจไหล่บ่าเข้าท่วม รพ.เสนา ที่อยู่ท้ายน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน เผยว่าได้รับประสานจากผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทางกรมชลประทานจึงรีบจัดทีมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรหนัก เข้ามาแก้ไขถนนดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือลดความเดือดร้อนของประชาชน

ตลาดสรรพยาน้ำยังท่วมสูง เน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น


ที่ จ.ชัยนาท วันนี้เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำต่ำกว่า 3,000 ลบ.ม./วินาที มาอยู่ที่อัตรา 2,983 ลบ.ม./วินาที ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมตลาดสรรพยาพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.สรรพยา ลดลงเล็กน้อย น้ำที่เคยท่วมผิวถนนทางหลวง 311 ตั้งแต่หน้าตลาดไปถึงบ้านโพธิ์เตี้ย น้ำลดลงไปอยู่ที่ขอบทางแล้ว แต่ในพื้นที่ตลาด–โรงเรียน-วัดสรรพยา น้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1 ม. ชาวบ้าน 800 ครัวเรือน ยังได้รับความเดือดร้อนและตอนนี้ยิ่งเดือดร้อนหนัก เพราะน้ำที่ท่วมขังในตลาดมานาน 14 วัน และมีขยะลอยเกลื่อนมาตั้งแต่วันแรก ประกอบกับพื้นที่โดยรอบถูกล้อมด้วยคันดินกั้นน้ำ 3 ด้าน และยังมีพนังคอนกรีตริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 1 ด้าน ทำให้พื้นที่กลายเป็นแอ่งกระทะ น้ำขังจึงเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว โดยเทศบาลตำบลสรรพยาได้นำน้ำจุลินทรีย์ EM จำนวน 400 ลิตร เข้าไปเทตามจุดต่างๆ เพื่อลดกลิ่นเน่าเหม็น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่อง สูบน้ำเน่าเสียระบายออกทางถนนทางหลวง 311 ลงคลองชลประทานเพราะยังไม่สามารถระบายออกทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เนื่องจากยังมีระดับสูง ต้องรอให้เขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำลงมาที่ 2,700 ลบ.ม./วินาที ถึงจะสูบน้ำระบายออกไปได้

พ่อเมืองภูเก็ต-ผบ.ทัพเรือภาค 3 สำรวจหลายจุดยังท่วม

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต สภาพอากาศตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ ยังมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังอยู่หลายพื้นที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯภูเก็ต พร้อม พล.ร.ท.อาภาภร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณประตูน้ำ คลองบางใหญ่ ถนนตลิ่งชันและด้านหลังโรงแรมถาวร เพื่อดูเส้นทางการไหลของน้ำ จากตัวเมืองเมืองภูเก็ตออกไปยังทะเลบริเวณปลายแหลมสะพานหิน เพื่อหาจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมให้ระบายออกทะเลโดยเร็วที่สุด ป้องกันน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองหลังยังมีฝนต่อเนื่อง และมีประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่น “เนสาท”


โดยผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบหมายให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในจุดเสี่ยงและมีระดับน้ำสูง ทำการเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลตลอด 24 ชม. พร้อมประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เพื่อนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสมทบ และได้รับอนุเคราะห์จากทัพเรือภาค 3 สนับสนุนอุปกรณ์ในการระบายน้ำ พร้อมกำลังพล ทำให้ขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 7 เครื่อง หากไม่มีน้ำฝนตกลงมาเติมอีก คาดว่าจะผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมได้ในเร็วๆ นี้

สาธารณสุขเตือนระวังเชื้อโรคฉี่หนู เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการติดเชื้อโรคไข้ฉี่หนู Leptospirosis ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เชื้อโรคไข้ฉี่หนู พบอยู่ในปัสสาวะของสัตว์หลายชนิด แต่พบได้บ่อยในหนู เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังและเยื่อบุ ที่มีแผลหรือรอยขีดข่วน หรือผิวหนังและเยื่อบุที่อ่อนนุ่มเนื่องจากแช่น้ำอยู่นาน จากการย่ำดินโคลน แช่น้ำท่วมขัง หรือว่ายน้ำ การสัมผัสปัสสาวะสัตว์หรือเนื้อเยื่อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อโดยตรง หรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะหนู จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 9 ต.ค.65 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 142 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 10.09 ต่อประชากรแสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.65 พบผู้เสียชีวิต 4 ราย คิดเป็นอัตราผู้ป่วยตาย ร้อยละ 2.82 กลุ่มอายุที่พบสูงสุด 10-14 ปี รองลงมา 55–60 ปี และ 5-9 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพรับจ้าง กลุ่มวัยเรียนและอาชีพเกษตรกรรม

จ.สตูล ฝนตกหนักหลายวัน น้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอ

หลังเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ช่วงเช้านี้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 1,4,5,6,7,8,9,10 ต.ปาล์มพัฒนา ส่วน ต.นิคมพัฒนา น้ำเข้าท่วมหมู่ที่ 13,4,5,6,7 โดยนายนพพล จีนลิบ ปลัดอวุโส (รักษาราชการแทนนายอำเภอมะนัง) จ.สตูล นำกำลัง อส. ไปช่วยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย โดยทาง อ.มะนัง ได้สั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ระดับน้ำบางแห่งสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ถนนในหมูบ้านหลายสายไม่สามารถใช้การได้เพราะระดับน้ำท่วมสูง ส่วนใน อ.ควนกาหลง ระดับน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง มีน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 10 หลัง ส่วนที่ ต.นาทอน ต.ทุ่งหว้า ฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทัน ทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านแต่พอฝนหยุดตกน้ำก็ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าก่อนหน้านี้น้ำไม่เคยท่วม แต่มีการขยายถนนสายตรัง-ทุ่งหว้า น้ำไม่มีทางระบายพอฝนตกหนักเลยเข้าท่วมบ้านชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย