ผนึกกำลัง 2 ผู้ว่าฯ “กทม.-ปทุมฯ” แก้ปัญหาน้ำ-ฝุ่น-จราจร แบบไร้รอยต่อ

ปทุมธานี 20 ก.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ผนึกกำลังผู้ว่าฯ ปทุมธานี หารือแก้ไขปัญหาน้ำ ฝุ่น PM 2.5 การจราจรและผังเมือง เพื่อการทำงานบูรณาการแบบไร้รอยต่อ พร้อมวางแผนในอนาคตจะร่วมหารือกับผู้ว่าฯ ในพื้นที่ปริมณฑล


วันนี้ (20 ก.ย.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมหารือบูรณาการการบริหารจัดการน้ำและฝุ่น PM 2.5 รวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้การรับมือสถานการณ์เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุย ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น ปัจจุบันกรมชลประทานเป็นผู้ดูแลการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในการระบายน้ำ ทางด้านจังหวัดจะเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบต่างๆ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องสื่อสารมากขึ้น เพื่อลดปัญหาและแจ้งเตือนให้กับประชาชนทันเวลา


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม และสมุทรปราการ จะต้องมีการพูดคุยกันมากขึ้น อาจจะเดือนละครั้ง ทั้งนี้ ตนกังวลว่าเดือนตุลาคม น้ำจะมาอีก เราจะต้องเตรียมรับมือในการพร่องน้ำตามประตูน้ำต่างๆ มีแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเดือนนี้น้ำฝนมีปริมาณมาก

ส่วนเรื่องฝุ่น PM 2.5 ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ มีประสบการณ์ในเรื่องการเผาชีวมวล กรุงเทพฯ ก็มีปัญหาในพื้นที่หนองจอก มีนบุรี จึงต้องให้ความรู้กับเกษตรกร ไม่อยากให้เผา ถ้าฝ่าฝืนจะต้องใช้ไม้แข็ง ดำเนินคดีทางกฎหมาย จะได้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับเรื่องของโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการปรับคุณภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝุ่นที่เกิดในจังหวัดปทุมธานี อาจจะไหลไปสู่กรุงเทพฯ ได้ เราจึงต้องร่วมมือกันทั้งในเรื่องของการจราจร นิคมอุตสาหกรรมจังหวัด ตนคาดหวังว่าเราจะมีความร่วมมือที่เข้มข้นขึ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังเผยถึงปัญหาจราจรที่ติดขัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปทุมธานี ว่าจุดรถติดขัดตั้งแต่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เชื่อมต่อนิมิตใหม่ ลำลูกกา จะต้องประสานการควบคุมการจราจร ส่วนเรื่องผังเมือง เราเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อกัน ได้ให้ทีมงานพูดคุยกัน ให้ผังเมืองมีความต่อเนื่องและการพัฒนาเมืองอย่างไร้รอยต่อ ตนได้มาเยี่ยมท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ และได้ความรู้หลายหลายอย่าง อนาคตจะได้ประสานงานร่วมมือให้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะทีมงานระดับพื้นที่ปฏิบัติการ


ด้านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ความสำคัญที่สุดคือ การทำงานอย่างไร้รอยต่อ ถ้าเรามองปัญหาแบบเดิมๆ อย่างเรื่องโควิดหรือการบริหารจัดการน้ำ การหารือครั้งนี้ได้พูดคุยปัญหาหลายหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องน้ำเรามองตรงกัน ช่วงเดือนตุลาคม น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุด ทุกปีโดยเฉลี่ยประเทศไทยจะมีพายุเข้า 2 ลูก ซึ่งเรากลัวว่าถ้าน้ำหนุนสูงและมีพายุเข้าจะทำให้เกิดปัญหา

“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยกับทีมงานจังหวัดข้างเคียงทั้งหมด ให้การทำงานไร้รอยต่อ รวมถึงการผันน้ำ และการปล่อยน้ำที่จะช่วยกันได้ ไม่กระทบกับใครเป็นพิเศษ และเมื่อหัวคุยกันเรียบร้อย ลูกทีมก็จะสามารถคุยกันเองได้ ทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องผังเมืองว่า ผังเมืองปทุมธานีคนละสีกับกรุงเทพฯ จะทำให้การทำงานไม่สอดคล้องกัน ปทุมธานีกำลังปรับผังเมืองจะได้รองรับนโยบายที่ประสานงานให้เป็นโซนต่อเนื่อง เมื่อเราได้กำหนดผังเมืองอย่างเป็นแบบแผน จะสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าปัญหาเรื่องการจราจรอาจจะแก้ไขได้ยาก จะเร่งรัดการก่อสร้างในพื้นที่ปทุมธานีให้ไวขึ้น เพราะในช่วงฤดูฝนอาจจะยาวถึงเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ถ้ารถติดจะทำให้ติดถึงถนนดินแดง ต้องเร่งรัดไม่ให้เป็นคอขวดในถนนวิภาวดีรังสิต

“สำหรับประเด็นในเรื่องปัญหาต่างๆ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะนำไปคุยกับจังหวัดอื่นได้ นี่คือการทำงานอย่างไร้รอยต่อทุกจังหวัด ไม่ว่าการทำงานส่วนภูมิภาค ระดับจังหวัด เราจะต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการสื่อสารที่เคยเกิดดราม่าประเด็นเรื่องการผันน้ำ วันนี้ได้มีการพูดคุยหรือยัง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินดราม่านี้ และฝ่ายปฏิบัติงานก็ทำงานได้ตลอด อาจจะมีการเข้าใจผิด พยายามให้ทุกคนมองถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง และปัญหาเรื่องน้ำท่วมที่ผ่านมามีน้ำมาจากจังหวัดนครนายก ไหลผ่านคลองรังสิต ปทุมธานี ถ้าหากออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้เยอะก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพูดคุยกับกรมชลประทานมากขึ้น

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดปทุมธานี ได้จัดเตรียมและถอดบทเรียนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ฝนตกในพื้นที่ปทุมธานีค่อนข้างเยอะ ปริมาณฝนตกมากกว่ากว๊านพะเยา จึงต้องนำบทเรียนที่เกิดขึ้น ประสานกรมชลประทานและกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด ตอนนี้เราเคลียร์พื้นที่หมดแล้ว และจะเพิ่มระบบสูบน้ำเข้าไปรองรับมวลน้ำในเดือนตุลาคม ถ้าไม่มาตามนัดก็ดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]