แม่แจ้งความรุ่นพี่ ม.6 ทำร้ายลูกชายสลบ ฉุนโยนตะกร้อโดนล้อ จยย.

นครพนม 18 ก.ย. – แม่น้อง ม.1 สุดทน แจ้งความรุ่นพี่ ม.6 ทำร้ายลูกชายสลบคาโรงเรียน เหตุเพราะโยนตะกร้อถูกรถจักรยานยนต์ ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด


เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) แม่วัย 38 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ของ ด.ช.อายุ 13 ปี นักเรียน ม.1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังของ อ.ศรีสงคราม โพสต์เฟซบุ๊กร้องทุกข์ผ่านสื่อโซเชียลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งความ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ ชายอายุ 19 ปี รุ่นพี่ ม.6 โรงเรียนเดียวกัน ทำร้ายร่างกาย ทั้งชกต่อย เตะลูกชายของตนเอง จนสลบคาที่ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม มีแผลบาดมุมปากด้านซ้าย ต้องเย็บถึง 5 เข็ม และมีรอยฟกช้ำตามใบหน้า เหตุเกิดวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา

นักเรียน ม.1 ที่ถูกรุ่นพี่ ม.6 ทำร้าย บอกว่าวันเกิดเหตุตนเล่นตะกร้อกับเพื่อนๆ ระหว่างนั้นเพื่อนโยนตะกร้อมาให้ แต่ตนรับไม่ได้ จึงกระเด็นโดนล้อรถจักรยานยนต์ของรุ่นพี่ ม.6 จึงเกิดความไม่พอใจ ก่อนต่อยเข้าที่มุมปากด้านซ้ายตน จนตนเองทรุดกับพื้น แม้จะยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่ไม่สนใจใช้เท้าเตะตนจนล้ม และยังเตะซ้ำอีกจนสลบคาที่ กระทั่งครูและเพื่อนนักเรียนเข้ามาห้ามนำส่งโรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม เย็บถึง 5 เข็ม ด้านนอก 3 ใน 2 เข็ม


หลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาน้องเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับรุ่นพี่ ม.6 ด้านแม่สอบถามข้อเท็จจริงกับผู้ก่อเหตุ อ้างทำไปเพราะความโมโห หนำซ้ำยังไม่สำนึกผิด ไม่ขอโทษ ยืนยันต้องการให้ผู้ก่อเหตุย้ายไปเรียนที่อื่น และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งทางแพ่งและอาญา เพราะถือว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่รถจักรยานยนต์ไม่ได้รับความเสียหายตำรวจเร่งสอบสวนผู้ก่อเหตุและผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาหนัก ทั้งคดีแพ่งและอาญา

อุ้มฆ่าเด็ก 14 คาดแค้นถูกขโมยทอง-เงินสด 3 พัน
เหตุการณ์เมื่อเวลา 14.00 น. (17 ก.ย.65) พ.ต.ต.ประกาศิต พละเดช สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กชายนอนตายปริศนา ภายในโรงจอดรถ บ้านหลังหนึ่ง ม.10 ซอยหัวหนอง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

บ้านเดี่ยวชั้นเดียว โรงจอดรถพบศพน้องเขียด อายุ 14 ปี ศพนอนตะแคงข้าง นุ่งกางเกงนักเรียนสีดำตัวเดียว มีร่องรอยเขียวช้ำจากถูกรัดด้วยเชือกที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง เต็มไปด้วยร่องรอยเขียวช้ำทั่วร่าง เสียชีวิตมาแล้ว 3 ชม. แพทย์เวรได้ชันสูตร เบื้องต้นพบว่ารอยเขียวช้ำที่เกิดขึ้น เกิดจากการถูกทำร้าย


น้าของผู้เสียชีวิตอายุ 40 ปี เล่าว่าหลานถูกกลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์หน้าปากซอย ห่างจากจุดที่พบศพ 100 เมตร เป็นคนทำร้าย กล่าวหาว่าขโมยทอง 1 บาท และเงินสด 3,000 บาท ก่อนเกิดเหตุประมาณตี 2 แม่ของตนได้ยินเสียงเด็กถูกทำร้าย ร้องทรมานด้วยความเจ็บปวด จึงปลุกตนให้ออกไปดู พบมีชายวัยรุ่น 4 คน กำลังยืนล้อมหลาน หนึ่งในนั้นมีชายอายุ 25 ปี ทั้งหมดพยายามขู่หลานให้คืนทองกับเงิน บางช่วงใช้มือตบหลายครั้ง ตนเห็นท่าไม่ดี เข้าไปห้ามและขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจ แต่ถ้าเด็กขโมยจริงก็จับส่งตำรวจไป แต่คนก่อเหตุพูดสวนกลับมาว่า “ถ้าส่งตำรวจก็ต้องถูกส่งตัวต่อไปสถานพินิจฯ เข้าไปไม่นาน เดี๋ยวออกมา”

ส่วนหลานอยู่ในอาการเงียบ ไม่พูดตอบโต้อะไร ตนจึงบอกว่าถ้ายังไม่หยุดจะไปแจ้งตำรวจจริงๆ จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็อุ้มหลานขึ้นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง อ้างพาหลานไปเอาทองที่ซ่อนไว้ ยอมรับว่าตอนนั้นคิดว่าหลานเป็นคนขโมยของไปจริงๆ เพราะปัจจุบันหลานไม่ได้เรียนหนังสือ และเคยมีพฤติกรรมขโมยของ ถูกจับส่งสถานพินิจหลายรอบ จึงไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ กระทั่งมีคนมาเล่าว่าเห็นกลุ่มวัยรุ่นพาหลานนั่งซ้อนท้ายประกบหน้าหลัง พาหลานมาส่ง ช่วง 11 โมง ของวันเดียวกัน ก่อนพบว่าหลานกลายเป็นศพ

พ่อของผู้เสียชีวิตวัย 44 ปี ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เปิดเผยว่าแม่ของน้องเพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ต้องมาสูญเสียน้อง ยอมรับว่าทำใจไม่ได้เพราะมีลูกคนเดียว ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นางติ๋ว อายุ 65 ปี ผู้เป็นย่าของน้องเขียด เปิดเผยว่าหลังจากแม่ของหลานเสียชีวิตก็ไม่ยอมไม่โรงเรียน ตระเวนเร่ร่อนไปทั่วในหมู่บ้าน เหมือนเด็กไม่มีความสุข ขาดความอบอุ่น ก่อนเกิดเหตุ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้มาถามหาหลาน อ้างว่าหลานขโมยทองและเงิน พร้อมทั้งขู่ว่าไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวจัดการเอง จนหลานมาเสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ กล่าวว่าเบื้องต้นกำชับฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมด และเร่งติดตามคนร้ายดำเนินโดยเร็วที่สุด ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เพราะเด็กมีอายุเพียง 14 ปี ยังให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานทุกปากเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย