นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off ใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยาง

จันทบุรี 25 ส.ค.-นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off เริ่มใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมขอให้ทุกคนรักประเทศไทยที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อรักษาไว้ ย้ำรักษาสิ่งที่ดีของไทย ติงคนที่คิดทำลาย ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง เพื่อไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ค่ายตากสิน ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปที่ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยทางถนน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี kick off เริ่มการใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ หรือ รับเบอร์ เฟนเดอร์ แบริเออร์ และหลักนำทางยางธรรมชาติ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ถนนหลวงสาย 3249 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง กิโลเมตรที่ 3+164 อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี


โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานว่า ดีใจที่เข้ามาเห็นทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ถือว่าประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เราไม่อยากให้กลับมาแพร่ระบาดอีก ถ้าสถานการณ์กลับมา เราก็พร้อมรับสถานการณ์ เพราะเรามีขีดความสามารถสูงในระดับหนึ่ง

“ขอให้ทุกคนภูมิใจ นี่คือสิ่งที่ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลแล้วสำเร็จ อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ส่วนรวม ผมคิดว่าน่าจะเป็นความภูมิใจของทุกคน และกำลังใจของผม คือ การได้รับความร่วมมือจากทุกคน ถือเป็นกำลังใจให้มีแรงศรัทธาในการทำงาน วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศ แก้สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีอะไรได้มาในเวลาอันรวดเร็ว หรือปีเดียว เหมือนกับการมีลูกต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียนจบ จะเติบโตและพ้นจากอกแม่ไป แต่เมื่อลำบากก็ต้องกลับมาหาพ่อแม่ สังคมนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ การศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่จะต้องคำนึง นี่คือสังคมไทย สัญลักษณ์แห่งการพูดคุยกัน ขอฝากทุกคนว่าวันนี้สถานการณ์โควิดโลกมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แต่ประเทศไทยดีอยู่แล้ว ขอให้รักษาให้ดีต่อไป ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน ขอให้รักษาสิ่งดี ๆ ของสังคมไทย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทาน นี่คือสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานให้เราแล้ว เพราะนี่คือแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด มาจากที่ไหนก็ตาม เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ ต้องรักประเทศไทย เราต้องสืบสาน รักษาต่อยอด สิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรจะแก้ได้หมด ค่อยเจรจาหารือกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจได้มาร่วมเปิดโครงการยางพาราไทยเพิ่มความปลอดภัยทุกเส้นทาง ที่เป็นการกระตุ้นการผลิตยางในประเทศ และต้องหาวิธีทำให้ราคายางในประเทศสูงขึ้น หลัก ๆ คือการใช้ภายในประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มการศึกษาวิจัยต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดมูลค่าและนำไปสู่รายได้ของชาวยางพารา ราคาพืชผลในประเทศหลายชนิดมีราคาตกต่ำ เพราะหลายประเทศเลือกผลิตใช้เองมากขึ้นแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โลก เราจึงต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการดำเนินการใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศที่มีการพัฒนาวิจัยและมาสู่การปฏิบัติที่ใช้ประโยชน์ได้จริง รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นคง เพราะเป็นรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศที่ตนเคยไปในหลายประเทศ ประเทศไทยถือว่าถนนดีที่สุด คนไทยต้องรู้ว่าเราได้อะไร มีอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องอีอีซีจะต้องทำงานแบบบูรณาการ ทุกคนถือว่ามีส่วนร่วมในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านด้านต่าง ๆ ทั้งนี้หากใครจะลงทุนอะไรก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงประเทศไทยเป็นหลัก รัฐบาลมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก สร้างโครงสร้างพื้นฐาน และวันนี้มีผลการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตรกรรมยางพารา เพิ่มความปลอดภัย ให้ผู้ขับรถ ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อลดการสูญเสียของประชาชน

“ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันวิจัยพัฒนาสิ่งที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศ นี่คือแนวทางไทยสร้างชาติ ที่ไม่สร้างความขัดแย้ง ผมพร้อมให้อภัยทุกคน และทุกคนก็ต้องพร้อมอภัยให้ผม นี่คือสังคมไทยที่ต้องพูดคุยทำความเข้าใจและให้อภัยกัน และขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้คำนึงถึงความปลอดภัย ระมัดระวังตนเองไม่ประมาท” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บ้านเมืองเรามี 3 อย่าง รอยยิ้มที่สดใสเป็นมิตรไมตรี อาหารการกินอร่อย และธรรมชาติสวยงาม 3 อย่างนี้ คือ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนหลักประเทศ นี่คือสิ่งที่เป็นมายาวนาน

“บรรพบุรุษเราเสียสละเลือดเนื้อมาตั้งเท่าไหร่ และประเทศเรามีประวัติศาสตร์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงเหมือนต่างประเทศ ด้วยฝ่ามือเป็นหลังมือไม่ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ก็คงไม่ยอม ขอเตือนผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อในโซเชียลให้ระมัดระวังด้วย มีคนพยายามทำให้เราไม่มีความสุขหรือไม่ วันนี้ผมพยายามใช้มาตรการทางกฎหมายที่ระมัดระวังมากที่สุด ไม่ให้บิดเบือน คนไทยทั้งประเทศต้องรักษาประเทศไทยเอาไว้ให้ได้ เพราะแผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ขอให้จำคำพูดผมไว้ ใครที่ไม่อยู่ในประเทศนี้แล้วคิดทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข ผมไม่ได้ไปสร้างความเกลียดชังกับใคร แต่หลายคนชอบสร้างความเกลียดชัง ทั้งที่เกิดแผ่นดินนี้ พ่อแม่ก็เกิดที่นี่ ผมไม่เข้าใจว่าจิตใจทำด้วยอะไร ในเวลานี้ที่เศรษฐกิจแย่ แล้วยังมาทำร้ายประเทศ ทั้งที่พรรคฝ่ายค้านขณะนี้ก็ให้ความร่วมมือรัฐบาลที่จะหาทางเดินหน้าประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บางคนพูดแต่ปัจจุบัน ไม่นึกถึงอดีตที่ผ่านมาว่าเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น ตนพร้อมให้อภัยทุกคน แต่กฎหมายไม่ให้ บางอย่างรัฐบาลอาจจะแก้ไขช้า แต่ยืนยันว่าดำเนินการอยู่ ขอบคุณทุกคน และอวยพรให้โครงการสำเร็จทุกประการและเกิดความต่อเนื่อง สำคัญคือเศรษฐกิจต้องเดินหน้าไปให้ได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“วันนี้ขอแค่ความเข้าใจ มันยากไปหรือไม่ วันนี้ผมเป็นตัวแทน ครม.มาพูดให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าประเทศในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 67 ล้านหัวใจ นี่คือประเทศไทยของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ดูการสาธิตการผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต สำหรับการใช้กำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ และหลักนำทางยางธรรมชาติ ถือเป็นการปักหมุดโครงการนี้ ในประเทศไทย โดยในวันนี้จะมีนิทรรศการเสมือนจริงในการสาธิตขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่การผสมยาง การขึ้นแบบ การอบ จนถึงการทาสีอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด พร้อมรับชมการติดตั้งใช้งาน บนถนนจริง ด้วยเวลาอันรวดเร็ว โดย 3 ปีแรกของโครงการฯ จะมีการใช้ยางพาราจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน เกษตรกรชาวสวนยางพาราจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และในช่วงปีที่ 3 วัสดุยางพาราจะเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน ในปีต่อไปต้องใช้ยางพารามาผลิตวัสดุยางพาราใหม่ หมุนเวียนไปทุก ๆ ปี ทำให้เกิดเสถียรภาพการใช้ยางพาราอย่างยั่งยืน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่
จะเดินทางกลับด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ค่ายตากสินไปยังสถานีการบิน กองการบินทหารเรือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]