นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off ใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยาง

จันทบุรี 25 ส.ค.-นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off เริ่มใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมขอให้ทุกคนรักประเทศไทยที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อรักษาไว้ ย้ำรักษาสิ่งที่ดีของไทย ติงคนที่คิดทำลาย ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง เพื่อไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ค่ายตากสิน ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปที่ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยทางถนน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี kick off เริ่มการใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ หรือ รับเบอร์ เฟนเดอร์ แบริเออร์ และหลักนำทางยางธรรมชาติ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ถนนหลวงสาย 3249 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง กิโลเมตรที่ 3+164 อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี


โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานว่า ดีใจที่เข้ามาเห็นทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ถือว่าประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เราไม่อยากให้กลับมาแพร่ระบาดอีก ถ้าสถานการณ์กลับมา เราก็พร้อมรับสถานการณ์ เพราะเรามีขีดความสามารถสูงในระดับหนึ่ง

“ขอให้ทุกคนภูมิใจ นี่คือสิ่งที่ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลแล้วสำเร็จ อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ส่วนรวม ผมคิดว่าน่าจะเป็นความภูมิใจของทุกคน และกำลังใจของผม คือ การได้รับความร่วมมือจากทุกคน ถือเป็นกำลังใจให้มีแรงศรัทธาในการทำงาน วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศ แก้สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีอะไรได้มาในเวลาอันรวดเร็ว หรือปีเดียว เหมือนกับการมีลูกต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียนจบ จะเติบโตและพ้นจากอกแม่ไป แต่เมื่อลำบากก็ต้องกลับมาหาพ่อแม่ สังคมนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ การศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่จะต้องคำนึง นี่คือสังคมไทย สัญลักษณ์แห่งการพูดคุยกัน ขอฝากทุกคนว่าวันนี้สถานการณ์โควิดโลกมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แต่ประเทศไทยดีอยู่แล้ว ขอให้รักษาให้ดีต่อไป ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน ขอให้รักษาสิ่งดี ๆ ของสังคมไทย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทาน นี่คือสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานให้เราแล้ว เพราะนี่คือแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด มาจากที่ไหนก็ตาม เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ ต้องรักประเทศไทย เราต้องสืบสาน รักษาต่อยอด สิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรจะแก้ได้หมด ค่อยเจรจาหารือกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจได้มาร่วมเปิดโครงการยางพาราไทยเพิ่มความปลอดภัยทุกเส้นทาง ที่เป็นการกระตุ้นการผลิตยางในประเทศ และต้องหาวิธีทำให้ราคายางในประเทศสูงขึ้น หลัก ๆ คือการใช้ภายในประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มการศึกษาวิจัยต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดมูลค่าและนำไปสู่รายได้ของชาวยางพารา ราคาพืชผลในประเทศหลายชนิดมีราคาตกต่ำ เพราะหลายประเทศเลือกผลิตใช้เองมากขึ้นแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โลก เราจึงต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการดำเนินการใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศที่มีการพัฒนาวิจัยและมาสู่การปฏิบัติที่ใช้ประโยชน์ได้จริง รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นคง เพราะเป็นรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศที่ตนเคยไปในหลายประเทศ ประเทศไทยถือว่าถนนดีที่สุด คนไทยต้องรู้ว่าเราได้อะไร มีอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องอีอีซีจะต้องทำงานแบบบูรณาการ ทุกคนถือว่ามีส่วนร่วมในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านด้านต่าง ๆ ทั้งนี้หากใครจะลงทุนอะไรก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงประเทศไทยเป็นหลัก รัฐบาลมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก สร้างโครงสร้างพื้นฐาน และวันนี้มีผลการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตรกรรมยางพารา เพิ่มความปลอดภัย ให้ผู้ขับรถ ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อลดการสูญเสียของประชาชน

“ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันวิจัยพัฒนาสิ่งที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศ นี่คือแนวทางไทยสร้างชาติ ที่ไม่สร้างความขัดแย้ง ผมพร้อมให้อภัยทุกคน และทุกคนก็ต้องพร้อมอภัยให้ผม นี่คือสังคมไทยที่ต้องพูดคุยทำความเข้าใจและให้อภัยกัน และขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้คำนึงถึงความปลอดภัย ระมัดระวังตนเองไม่ประมาท” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บ้านเมืองเรามี 3 อย่าง รอยยิ้มที่สดใสเป็นมิตรไมตรี อาหารการกินอร่อย และธรรมชาติสวยงาม 3 อย่างนี้ คือ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนหลักประเทศ นี่คือสิ่งที่เป็นมายาวนาน

“บรรพบุรุษเราเสียสละเลือดเนื้อมาตั้งเท่าไหร่ และประเทศเรามีประวัติศาสตร์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงเหมือนต่างประเทศ ด้วยฝ่ามือเป็นหลังมือไม่ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ก็คงไม่ยอม ขอเตือนผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อในโซเชียลให้ระมัดระวังด้วย มีคนพยายามทำให้เราไม่มีความสุขหรือไม่ วันนี้ผมพยายามใช้มาตรการทางกฎหมายที่ระมัดระวังมากที่สุด ไม่ให้บิดเบือน คนไทยทั้งประเทศต้องรักษาประเทศไทยเอาไว้ให้ได้ เพราะแผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ขอให้จำคำพูดผมไว้ ใครที่ไม่อยู่ในประเทศนี้แล้วคิดทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข ผมไม่ได้ไปสร้างความเกลียดชังกับใคร แต่หลายคนชอบสร้างความเกลียดชัง ทั้งที่เกิดแผ่นดินนี้ พ่อแม่ก็เกิดที่นี่ ผมไม่เข้าใจว่าจิตใจทำด้วยอะไร ในเวลานี้ที่เศรษฐกิจแย่ แล้วยังมาทำร้ายประเทศ ทั้งที่พรรคฝ่ายค้านขณะนี้ก็ให้ความร่วมมือรัฐบาลที่จะหาทางเดินหน้าประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บางคนพูดแต่ปัจจุบัน ไม่นึกถึงอดีตที่ผ่านมาว่าเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น ตนพร้อมให้อภัยทุกคน แต่กฎหมายไม่ให้ บางอย่างรัฐบาลอาจจะแก้ไขช้า แต่ยืนยันว่าดำเนินการอยู่ ขอบคุณทุกคน และอวยพรให้โครงการสำเร็จทุกประการและเกิดความต่อเนื่อง สำคัญคือเศรษฐกิจต้องเดินหน้าไปให้ได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“วันนี้ขอแค่ความเข้าใจ มันยากไปหรือไม่ วันนี้ผมเป็นตัวแทน ครม.มาพูดให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าประเทศในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 67 ล้านหัวใจ นี่คือประเทศไทยของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ดูการสาธิตการผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต สำหรับการใช้กำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ และหลักนำทางยางธรรมชาติ ถือเป็นการปักหมุดโครงการนี้ ในประเทศไทย โดยในวันนี้จะมีนิทรรศการเสมือนจริงในการสาธิตขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่การผสมยาง การขึ้นแบบ การอบ จนถึงการทาสีอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด พร้อมรับชมการติดตั้งใช้งาน บนถนนจริง ด้วยเวลาอันรวดเร็ว โดย 3 ปีแรกของโครงการฯ จะมีการใช้ยางพาราจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน เกษตรกรชาวสวนยางพาราจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และในช่วงปีที่ 3 วัสดุยางพาราจะเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน ในปีต่อไปต้องใช้ยางพารามาผลิตวัสดุยางพาราใหม่ หมุนเวียนไปทุก ๆ ปี ทำให้เกิดเสถียรภาพการใช้ยางพาราอย่างยั่งยืน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่
จะเดินทางกลับด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ค่ายตากสินไปยังสถานีการบิน กองการบินทหารเรือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]