รัฐสภา 11 ส.ค.-ฝ่ายค้านเสนอญัตติด่วนปมนายกฯ 8 ปี แทรก แก้หนี้นอกระบบ ก่อน ส.ส.รัฐบาล ตลบหลัง ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม ทำสภาฯ ล่ม ขวางฝ่ายค้านอภิปรายปมร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯ พิจารณาประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเป็นประเด็นที่สำคัญและต้องการเสนอความเห็นไปยังรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการไม่เกิดปัญหา
ทั้งนี้ญัตติดังกล่าวถูกคัดค้านจาก ส.ส.ฝั่งรัฐบาล โดยนายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอ กังวลว่าจะใช้เวทีของสภาเพื่อกดดันผู้พิจารณาวาระ 8 ปีหรือไม่ ทั้งที่สภาฯ ไม่มีอำนาจ โดยเรื่องนี้ศาลมีอำนาจตัดสินใจว่าจะจบอย่างไร ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในการหารือของวิป 2 ฝ่าย ตกลงว่าจะเสนอญัตติด่วนเพื่อแกัปัญหาหนี้นอกระบบ หากจะพิจารณาเรื่องที่ตกลงคือ หนี้นอกระบบตนไม่ติดใจ แต่หากจะยื่นญัตติเรื่อง 8 ปีนั้น ตนไม่เห็นด้วย
จากนั้น ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน คือ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เสนอญัตติในทำนองเดียวกันกับนายสุทิน เพราะมองว่าเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ กระทบต่อความสงบของประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นไปด้วยเมื่อพลเอกประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม นายศุภชัย พยายามอธิบายว่า วาระตามที่เสนอญัตติการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ สมาชิกสามารถเข้าชื่อ เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ ถึงการพ้นจากตำแหน่งที่รัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้นตนมองว่าควรใช้ช่องทางดังกล่าวจะเหมาะสมกว่า
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเสนอญัตติเพื่ออภิปราย ไม่ใช่การชี้ขาด แต่คือเสนอเรื่องไปยังรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่ก้าวล่วงในการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่หวังว่าจะมีผลทางกฎหมาย แตเพื่อให้มีผลผูกพันทางจิตสำนึก หากนายกฯ ฟังแล้วและมีสปิริตอาจจะลาออกเองก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมยังคงถกเถียงในประเด็นดังกล่าว และมี ส.ส.พลังประชารัฐ เสนอญัตติให้พิจารณาตามวาระปกติ ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง และเข้าใจเหตุผลของฝ่ายค้าน แต่ขณะนี้ต้องคำนึงว่าจะเหมาะสมหรือก้าวล่วงศาลหรือไม่ ซึ่งตามที่ตกลงคือ จะพิจารณาญัตติเรื่องเงินกู้ ซึ่งตนเตรียมมา แต่เมื่อเจอแบบนี้เหมือนถูกหลอก
“ผมเข้าใจฝ่ายค้าน และขอเสนอทางออก คือให้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ต่อเรื่องนี้ ผมพร้อมร่วมลงชื่อด้วยเป็นชื่อแรก เพราะต้องการถามสามัญสำนึก” นายชาดา กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่ ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายอภิปรายเหตุผลพอสมควร นายศุภชัย เรียก ส.ส.ให้แสดงตนก่อนลงมติ ผลปรากฎว่ามีผู้มาแสดงตนเป็นองค์ประชุม 124 คน ทำให้นายศุภชัย กล่าวว่า “เมื่อแสดงตนแล้ว ไม่ครบองค์ประชุมที่ต้องใช้ 239 คน ผมขอปิดประชุม”
ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขอหารือว่า เครื่องหรือระบบอาจจะมีปัญหาก็ได้ เพราะจากที่มองด้วยสายตา พบว่ามีผู้ที่นั่งในห้องประชุมมากกว่า 124 คน แต่การประชุมยังเดินหน้าปิดประชุมแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านั้นนายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้พิจารณาค่าตอบแทนของ ส.ส. ที่พบว่าไม่ทำหน้าที่ด้วย
ทั้งนี้ จากภาพในห้องประชุม พบว่าที่นั่งของฝั่งรัฐบาล มีส.ส.นั่งกันอย่างบางตา.-สำนักข่าวไทย