พท.เสนอ 3 แนวทางพัฒนาท่องเที่ยว

พรรคเพื่อไทย 2 ส.ค.-“จักรพล” ระบุ  แผน การตลาดท่องเที่ยวไทยปี66 ยังมีช่องโหว่ แนะ 3 แนวทางพัฒนา ชี้อนาคตอย่าหวังพึ่งแต่นักท่องเที่ยวแดนไกล ต้องเน้นพึ่งพาตัวเองและศักยภาพเพื่อนบ้าน


นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำแผนการตลาดปี 2566 พร้อมเตรียมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย 4 กลยุทธ์ และตั้งเป้าว่าจะดันรายได้การท่องเที่ยวปี 2566 รวม 2.38 ล้านล้านบาท ว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่ยังมีช่องโหว่ของกลยุทธ์ดังกล่าวทั้งหมด 3 ช่องโหว่ คือ ช่องโหว่ที่ 1 คือ แผนการดำเนินการที่ไม่ชัด เห็นได้ว่ากลยุทธ์ทั้ง 4 ตัวนั้นขาดการวางแผนการดำเนินการที่ไม่รัดกุมและไม่รอบคอบ เช่น กลยุทธ์สร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว ทางรัฐบาลจะสร้างประสบการณ์นี้ได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยังตัดสินใจผิดพลาดในหลายๆเรื่องและหลาย ๆ ครั้ง และรัฐมักปล่อยให้ภาคเอกชนต้องเดินฝ่าอุปสรรคด้วยตนเองตลอดมา

“ช่องโหว่ที่ 2 คือ รัฐอาจจะแพ้ภัยตัวเอง จากผลการจัดอันดับพบว่า กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ประเทศไทย ติด 10 อันดับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในฤดูร้อนประจำ ปี 2565  แต่ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลทำผิดพลาดหลายครั้งทำให้เกิดการระบาดของโควิดมากกว่า 5 ระลอก และการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าทำให้ประเทศต้องฟื้นตัวช้ากว่ากำหนด และหากรัฐบาลยังหลงตัวเองคิดว่าตัวเองยังอยู่หัวคะแนนของตารางการท่องเที่ยวอยู่แบบนี้ ยิ่งทำให้รัฐบาลเพิกเฉยต่อธุรกิจการท่องเที่ยวไทยหรือไม่ การแพ้ภัยตัวเองนี้อาจจะนำไปสู่พิษเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวของไทยได้” นายจักรพล กล่าว


นายจักรพล กล่าวว่า ช่องโหว่ที่ 3 คือบาดแผลทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยหายไป จากที่ตนมีส่วนร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมเสนอบาดแผลทั้ง 5 ประกอบด้วย 1.การว่างงานในระยะยาวอาจปรับตัวสูงสุดแตะได้ถึง 1.7 แสนคน 2.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวลดลง 3.ดัชนีความสุขของคนในประเทศไทยลดลงจากอันดับจากที่ 34 ให้ลงมาถึงอันดับที่ 46 4.จำนวนนักท่องเที่ยว ในปี 65 อาจจะหายไปถึง 33 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 63 และ 5.บาดแผลที่ 5 รายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่หายไปไปมากกว่า 3.5 ล้านล้านบาท และรัฐบาลยังสร้างบาดแผลเพิ่มจากแผนและกลยุทธ์การท่องเที่ยวที่เพ้อฝันอีก เป็นการทำลายฝันของธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์แบบ

นายจักรพล เสนอ 3 กลไกที่จะถูกผลักดันโดยเครื่องยนตร์ตัวที่ 5 คือ เครื่องยนต์ทางดิจิทัล ดังนี้ กลไกที่ 1 พัฒนากรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation: GMS) ด้วยการผลักดันสินค้า Soft power ไทยที่โดดเด่น เช่น เช่น เนื้อสัตว์แช่แข็ง ยางพารา ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป เป็นต้น ผ่าน Platform และ E – Commerce ในความร่วมมือระหว่างประเทศ สนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารด้วย Covid Safety Food ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาทิ การท่องเที่ยว 5 เชียง การท่องเที่ยวถนน R3A R3B ทางอากาศ ทางรางและทางเรือ พร้อมยกระดับ Logistics เพื่อสนับสนุน Supply Chain ทางอาหารและอื่นๆอย่างเป็นระบบ และรีบดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

“กลไกที่ 2 กรอบความร่วมมือแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT-GT : Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle) ด้วยการผลักดัน Supply Chain ทั้ง 6 เส้นทาง (EC1-EC6) โดยชูจุดเด่นของสินค้าไทย เช่น ยางพารา อาหารทะเล ไม้ยางแปรรูป ปาล์มน้ำมัน อาหารทะเลแปรรูป และผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทย พร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น ชิโนโปรตุกีส นายจักรพลยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน Digital Platform ที่ทำให้ ผู้ประกอบการไทยและภาครัฐไทยพร้อมก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างจริง โดยมีกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นกองทุนที่เข้าถึงง่าย ดอกเบี้ยต่ำ และยืดหยุ่นสูง” นายจักรพล กล่าว


นายจักรพล กล่าวว่า กลไกที่ 3 การเพิ่มขีดจำกัดของการแข่งขันในพื้นที่ ประกอบด้วย 1.การกำหนดสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน 2.การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนและนวัตกรรมสาหรับผู้ประกอบกิจการทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น SMEs และ Micro SMEs รวมถึงธุรกิจ Startup  และ 3.การสนับสนุนการลงทุน ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่นำร่องการพัฒนากับโครงข่าย หลักโดยรอบเพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุน โดยเน้นการใช้และเชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ เพื่อเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนกลไกที่ 1 และ 2 หากได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวและการส่งออกในเขตเศรษฐกิจซึ่งนำไปสู่รายได้ในพื้นที่ขั้นต่ำ 23 ล้านล้านบาท

“นี่คือกรอบวิสัยทัศน์ของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยในอนาคต ที่จะไม่ได้พึ่งพาแต่นักท่องเที่ยวแดนไกลแต่จะเป็นการพึ่งพาตัวเองและศักยภาพของเพื่อนบ้านที่พร้อมพัฒนาไปด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ และยังสร้างความล้มเหลวด้วยการตัดสินใจที่ไม่มีข้อมูลนำไปสู่ความผิดพลาด และไร้ซึ่งจริยธรรมในการบริหารประเทศ ในฐานะที่ผมเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาระเบียงเศรษฐกิจที่ได้ศึกษาและดูงานทั้งหมด ได้เห็นโอกาสที่หลุดลอย ถูกทำให้เคว้งคว้าง ไร้จุดหมาย และแผนการที่ดำเนินการอยู่ก็ดูยากที่จะไปถึง ทั้งหมดนี้ไม่ควรเป็นคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้นำเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและคนทั้งประเทศ แต่ก็เป็นข่าวดีของประเทศไทยเพราะเวลาที่ตกต่ำที่สุดของประเทศไทยใกล้จบลงแล้ว พรรคเพื่อไทยพร้อมนำประเทศไทยกลับมาสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองของประเทศอีกครั้ง ได้เวลานับถอยหลังของพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว” นายจักรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสารขาออกวันนี้

การเดินทางขาออกในเทศกาลสงกรานต์ 2568 ถือว่ารถโดยสารของ บขส. ยังมีบทบาทสำคัญ เพราะเป็นวันหยุด มีผู้โดยสารเดินทางแน่นตลอดวัน วันนี้ บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสาร

นายกฯ เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025”

นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ ท้องสนามหลวง ฉลองปีใหม่ไทย จัดเต็มปรากฏการณ์สาดความสุขครั้งยิ่งใหญ่ หนุนมรดกไทยสู่ World Event ระดับโลก

สงกรานต์หาดใหญ่ คาดเงินสะพัด 780 ล้านบาท

สงกรานต์หาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้คึกคัก ททท. คาดมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมกว่า 7 หมื่นคน เงินสะพัดทั่วจังหวัดกว่า 780 ล้านบาท

สงกรานต์เชียงใหม่วันแรกชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมือง

สงกรานต์ จ.เชียงใหม่ วันแรกคึกคัก ชาวเชียงใหม่-นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แห่ร่วมกิจกรรม เล่นสาดน้ำชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมืองตลอดวันจนถึงช่วงค่ำ