ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย 11 จังหวัด

กรุงเทพฯ 28 ก.ค.- ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ประสานพื้นที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย บ้านเรือนเสียหาย 91 หลัง


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ระหว่างวันที่ 25 – 28 ก.ค.65 ส่งผลให้มีสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา นครนายก และนราธิวาส รวม 20 อำเภอ 31 ตำบล 56 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 91 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แยกเป็น

ภาคเหนือ 3 จังหวัด รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 35 หลัง ดังนี้


  • แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
  • น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอนาน้อย รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 6 หลัง
  • พิษณุโลก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมพิราม อำเภอนครไทย และอำเภอชาติตระการ รวม 7 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 29 หลัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด รวม 13 อำเภอ 19 ตำบล 38 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 45 หลัง ดังนี้

  • ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอพล รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง
  • ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอหนองบัวระเหว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง
  • สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำดวน อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอบัวเชด และอำเภอสังขะ รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 31 หลัง
  • ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขุนหาญ และอำเภอพยุห์ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน
  • ยโสธร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอป่าติ้ว รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 10 หลัง
  • นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอพิมาย และอำเภอประทาย รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน

ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ นครนายก เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองนครนายก รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 6 หลัง

ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส เกิดวาตภัย ในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 5 หลัง


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศร้อนจัด-ใต้ฝนเพิ่มขึ้น

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40%

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง