ทำเนียบ 12 ก.ค. – ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุ ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง จะเน้นการติดตาม ไม่เน้นการฉีดฮอร์โมนเพื่อลดความต้องการทางเพศ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายสูง
นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่วุฒิสภาผ่านร่าง พระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. … ว่า ในขณะนี้ ยังมีบางมาตรการที่ยังมีการตีความและปรับแก้ ซึ่งเมื่อสำเร็จสมบูรณ์แล้วจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาอย่างละเอียดอีกขั้นตอนหนึ่ง ส่วนในขณะนี้ที่สังคมให้ความสนใจในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยเฉพาะมาตรการทางการแพทย์ที่จะมีการฉีดฮอร์โมนเพื่อลดความต้องการทางเพศให้แก่ผู้กระทำผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งในลักษณะของการบังคับใช้นั้นยังจะต้องมีการพิจารณาจากคณะกรรมการอีกหลายขั้นตอน เพราะเป็นกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนจะต้องมีการลงความเห็นทางการแพทย์ ด้านจิตเวช ตลอดจนความยินยอมของผู้ต้องหา เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการบังคับใช้ ซึ่งในเบื้องต้น หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลครอบคลุมไปทั้งผู้ที่กระทำความผิด และผู้ที่ถูกตัดสินโทษและจำคุกอยู่แล้วด้วย
“ยืนยันว่าไม่ใช่การฉีดฮอร์โมนทุกกรณี เพราะมีค่าใช้จ่ายต่อรายราว 100,000 บาท และระยะการออกฤทธิ์ควบคุมมีเพียง 3-6 เดือน โดยการจะฉีดฮอร์โมนให้ผู้ต้องหาจะต้องพิจารณาถึงการกระทำความผิดรุนแรงซ้ำ ผู้ต้องขังที่มีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำ หรือผู้ต้องขังที่สมัครใจเข้ารับการฉีดเพื่อขอผ่อนผันลดการรับโทษ เป็นต้น ส่วนกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในคดีความรุนแรงทางเพศทันทีทุกคน คือการติดตามตัวด้วยกำไล EM เมื่อพ้นจากการคุมขัง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามควบคุมต่อเนื่องผ่านกำไล EM” น.ส.พัชรินทร์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย