ชูเชียงใหม่เป็นจังหวัดต้นแบบความก้าวหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 30 มิ.ย.-นายกฯ ชื่นชมทุกภาคส่วนในเชียงใหม่ร่วมกันสร้างความเข้มแข็ง ถือเป็นจังหวัดต้นแบบศูนย์กลางความก้าวหน้า เชื่อมั่นศักยภาพคนไทยพร้อมปรับตัวไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลง ปลื้มเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์รัฐบาล


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องการลงพื้นที่เพื่อติดตามงานที่จังหวัดเชียงใหม่ วานนี้   (29 มิ.ย.) ว่า เป็นโอกาสดีอีกครั้งในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการทำงานตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนอกจากจะได้รับทราบความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ แล้ว  ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นมืออาชีพ ความมุ่งมั่น และร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ที่บูรณาการกันสร้างความเข้มแข็งในทุก ๆ กิจกรรม ทุกระดับอย่างน่าชื่นชม

“ยกตัวอย่างเช่น 1. โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร โดยสถานีตำรวจภูธรสารภี ซึ่งสร้างกลไกและระบบการทำงานสำคัญๆ ได้แก่ (1) เน้นการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งของชุมชน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ประชาชน ภาคประชาสังคม รวมทั้งสถานประกอบการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (2) มุ่งการปราบปรามเชิงรุก ลดความต้องการในพื้นที่ โดยค้นหาผู้เสพรายเก่านำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูและป้องกันผู้เสพรายใหม่ (3) ส่งเสริมกระบวนการชุมชนบำบัด ให้ความสำคัญกับการคืนคนดีสู่สังคม และ (4) มีการประเมินผล มีตัวชี้วัดชัดเจน เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งผมเห็นว่าหากสามารถความเข้มแข็งในระดับตำบลทุกแห่งได้ ประเทศชาติก็จะเข้มแข็ง ปลอดภัยจากยาเสพติดได้ในภาพรวม ในที่สุด” นายกรัฐมนตรี ระบุ


นายกรัฐมนตรี ระบุว่า 2. การยกระดับระบบการบริหารและบริการสาธารณะ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ ที่ได้รับการรับรองเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Maehia Municipality to Smart City) จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งประกอบด้วย (1) การพัฒนาแพลตฟอร์มระบบข้อมูลเมือง (City Data Platform) เตรียมเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) สำหรับการบริหารงานเมืองและให้บริการประชาชน (2) การสร้างกลไกการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) และต้นแบบธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุนเชิงพื้นที่ เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ (3) การพัฒนาท้องถิ่นดิจิทัล ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี Blockchain ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม  โปร่งใส และลดความเหลื่อมล้ำของคนในชุมชน และ (4) การสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนาเมืองน่าอยู่ และศูนย์บริการเป็นเลิศเทศบาลแนวใหม่ เช่น เปิดช่องทางร้องเรียน อนุมัติ อนุญาต แบบออนไลน์ ทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ 24 ชั่วโมง เป็นต้น โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือและความเข้มแข็งของคนในพื้นที่ ซึ่งเห็นว่าสามารถเป็นโมเดลการพัฒนาเมืองให้กับท้องถิ่นอื่นๆ ของไทยได้เป็นอย่างดี

“สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนนั้น มีแนวโน้มการขยายตัวของเมืองอีกมาก โดยปัญหาในอนาคตที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สนับสนุนทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งน้ำกิน-น้ำใช้ ทั้งภาคเกษตรกรรม-อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว โดยครั้งนี้ ผมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญๆ ที่คาดว่าจะเสริมศักยภาพของเมืองได้ ในอนาคตได้อีก 20 ปีข้างหน้า ได้แก่ (1) อุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่แตง – แม่งัด สำหรับเติมน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เฉลี่ย 113 ล้าน ลบ.ม./ปี (2) อุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด – แม่กวง สำหรับเติมน้ำให้เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เฉลี่ย 47 ล้าน ลบ.ม./ปี โดยภาพรวมทั้ง 2 โครงการ มีความคืบหน้ากว่า 68% เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพพื้นที่ชลประทาน 175,000 ไร่ เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกช่วงฤดูแล้ง จาก 17,060 ไร่ เป็น 76,129 ไร่ ตลอดจนมีระบบโทรมาตรและระบบเตือนภัยน้ำท่วม/น้ำหลากล่วงหน้าอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้เป็นหนึ่งในอีกหลายการลงทุนเพื่ออนาคตของรัฐบาล ที่มุ่งสนับสนุนการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคของประเทศ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน FTI Expo 2022 – Shaping the Future Industry ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมระดมพลัง เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมของประเทศ โดยมีหลักการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในหลายเรื่อง ได้แก่ (1) การมุ่งสร้างอุตสาหกรรมไทย ให้เป็น Smart Industry โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่รัฐบาลกำหนด (2) การยกระดับธุรกิจ สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนา BCG Model ที่รัฐบาลส่งเสริมและผลักดันในเวทีระดับโลก (3) การส่งเสริมสินค้าไทย ภายใต้สัญลักษณ์ “Made in Thailand” และ (4) การยึดแนวคิด “การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน” (ESG) ในการดำเนินธุรกิจ ที่ไม่ละเลยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งเห็นว่าหากทุกภาคส่วนมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน ก็จะยิ่งทำให้เกิดพลังในการทำงานทุกระดับ


“สิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์   ซึ่งในครั้งนี้ได้ติดตามการเสริมสร้างศักยภาพกำลังคนด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการสร้างความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองในอนาคต โดยได้ไปเยี่ยมชมการดำเนินกิจการของโรงเรียนวัดเวฬุวัน (สารภีชนานุกูล) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนนำร่อง ที่จะพัฒนาไปสู่ “ศูนย์การเรียนรู้” แห่งศตวรรษที่ 21 โดยเน้นทักษะดิจิทัล ด้าน Coding, STEM, IoT และ AI รวมทั้ง Metaverse เป็นการสร้างรากฐานของสังคมไทย ให้พร้อมเติบโตไปสู่ “สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล” ในที่สุด ปัจจุบันมีการผนึกกำลังพันธมิตรภาคการศึกษา สามารถพัฒนาครู 4,700 คน และมีนักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 387,000 คน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จากความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นเมื่อวานนี้ ทำให้รู้สึกยินดีและเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยว่ามีความพร้อมที่จะปรับตัวและเปลี่ยนผ่านท่ามกลาง “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลก” ได้เป็นอย่างดี เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลได้วางไว้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่  ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบศูนย์กลางความก้าวหน้าในส่วนภูมิภาค ที่มีศักยภาพสูง ทั้งบุคลากร ต้นทุนทางวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมที่จะพลิกโฉมเป็นเมืองอัจฉริยะ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาครับการเปิดประเทศได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]