“กมธ.ดีอีเอส” ควง “ทรู”ลุยสำรวจสัญญาณโทรศัพท์เชียงราย

เชียงราย 6 มิ.ย.- “กมธ.ดีอีเอส” ควง “ทรู” ลุยขึ้นดอยเชียงราย สำรวจสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมตั้งเสาสัญญาณให้ ปชช. ชี้ การมีสัญญาณช่วยลดเหลื่อมล้ำ การศึกษา-ค้าขายออนไลน์ ตั้งเป้า เร่งขยายเสาสัญญาณในพื้นที่ห่างไกลอีก เล็งของบ USO NET ตั้งโครงข่ายสัญญาณ


น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วย นายสยาม หัตถสงเคราะห์ รองประธาน กมธ.ดีอีเอส พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กมธ.ดีอีเอส พร้อมด้วย นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น, ตัวแทน บ.ดีแทค, บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กสทช. ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการโทรศัพท์ในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

โดยคณะกรรมาธิการฯ กมธ.ดีอีเอส ได้นั่งรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นไปยังบ้านห้วยมะเกลี้ยง (ห้วยไคร้) ตำบลป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์ และสำรวจพื้นที่ ที่ยังไม่มีสัญญาณ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ประชาชนในพื้นที่นี้ กว่า 40 หลังคาเรือน ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใช้ ตามที่ส่งหนังสือขอความช่วยเหลือมายังกมธ.ดีอีเอส ทาง ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้มีการช่วยเหลือ ด้วยการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้ประชาชน ได้มีสัญญาณโทรศัพท์ไว้ใช้ติดต่อสื่อสารได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการแจกซิมทรูฟรี ให้กับประชาชน จำนวน 200 เบอร์ พร้อมเติมเงินให้เบอร์ละ 100 บาท ด้วย


น.ส.กัลยา กล่าวว่า วันนี้ กมธ.ดีอีเอส ได้เดินทางมาทั้งหมด 7 คน พร้อมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งวันนี้ ตนรู้สึกยินดี ที่ประชาชนบ้านห้วยมะเกลี้ยง ได้มีเสาสัญญาณโทรศัพท์ใช้แล้ว เพราะจากที่กมธ.ดีอีเอส ได้รับหนังสือขอความช่วยเหลือ ก็เร่งประสานจนทำให้ประชาชนในพื้นที่นี้ ได้มีสัญญาณโทรศัพท์ใช้ โดยเป็นสิ่งน่ายินดีที่ กมธ. คณะนี้ มีการทำงานระหว่างพรรคการเมือง ที่ไม่มีความขัดแย้ง จึงทำให้การช่วยเหลือประชาชนสำเร็จ ขณะเดียวกัน ตนขอขอบคุณทรู คอร์ปอเรชั่น ที่สนับสนุนเสาสัญญาณ ทำให้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยการศึกษา และสร้างอาชีพ เพราะยุคนี้ เราใช้เทคโนโลยี ในการดำรงชีวิต อาทิ การค้าขายออนไลน์ ดังนั้น การทำให้มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงเป็นการช่วยสร้างความเท่าเทียม ซึ่งจากนี้ กมธ.ดีอีเอส ก็จะเร่งประสานขยายเสาสัญญาณ ไปยังพื้นที่ขาดสัญญาณให้ได้มากที่สุด

นางดรุณี วงค์ก๋อง ชาวบ้านห้วยไคร้ กล่าวว่า ขอบคุณ บ.ทรู ที่มาทำการติดตั้งสัญญาณทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกโดยเฉพาะการติดต่อกับครอบครัวลูกสาวที่ไปเรียนในเมืองทำให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ลดความคิดถึงลงได้ สามารถวีดิโอคอลถึงกัน เป็นชีวิตที่อบอุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถขายของท้องถิ่นได้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่รอเพียงนักท่องเที่ยวที่นาน ๆ ครั้งจะเดินทางขึ้นมาท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันลูกค้าสามารถสั่งออร์เดอร์ผ่านออนไลน์ได้ทุกวัน และจำนวนมาก ทำให้สามารถวางแผนขายสินค้าได้ด้วย รวมถึงได้ถ่ายภาพธรรมชาติของหมู่บ้านลงในโซเชียลมีเดียประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวได้ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจชุมชมดีตามไปด้วย ที่สำคัญคือช่วยด้านการศึกษา ที่เด็ก ๆ สามารถหาข้อมูลประกอบการเรียนได้

ด้าน นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า ในนามทรู เรามีหน้าที่เชื่อมโยงให้ประชาชน รับรู้ข่าวสาร ติดต่อสื่อสารกันได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีโครงข่าย 98% ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วน 2% ที่เหลือ เราก็จะเร่งขยายให้ครอบคลุม โดยเมื่อมีการร้องขอ เราก็รู้สึกยินดี สนับสนุนให้พื้นที่นี้ มีสัญญาณโทรศัพท์ใช้ทันที


ทั้งนี้ น.ส.กัลยา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า กมธ.ดีอีเอส ได้ลงพื้นที่มาเพื่อส่งมอบสัญญาณโทรศัพท์ ระหว่างทรูฯ ให้กับประชาชนในพื้นที่บ้านห้วยมะเกลี้ยง เพราะประชาชน จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้ส่งเรื่องมายัง กมธ. ว่า ยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สร้างความเดือดร้อน เนื่องจากถูกตัดขาด ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ กมธ. จึงมีการช่วยเหลือลักดัน ประสานผ่าน กสทช. ให้ดูความเป็นไปได้ ในการสร้างโครงข่ายสัญญาณ จึงมีการตั้งเสาสัญญาณให้ประชาชน ซึ่ง กมธ. มีความภูมิใจ ที่ภาคเอกชน มาช่วยสนับสนุน เหมือนเป็นการคืนกำไรสู่สังคม เพราะหากคำนวณความคุ้มค่า ในแง่ของเอกชน คงไม่ได้ ขณะเดียวกัน จากนี้ เราจะเชิญทุกหน่วยงานมาหารือ เพื่อสร้างความเท่าเทียมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เพราะชีวิตประจำวัน เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วย เช่น การท่องเที่ยว ดังนั้น เราอาจจะเสนอใช้งบประมาณจาก โครงการ USO NET มาช่วยสร้างโครงข่ายสัญญาณให้กับประชาชน ที่ยังไม่มีสัญญาณต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย