“อุ๊งอิ๊ง” ทวงพื้นที่ฐานเสียงสมุทรปราการ

สมุทรปราการ 14 พ.ค.- “อุ๊งอิ๊ง” พาเพื่อไทยบุกทวงพื้นที่ฐานเสียงสมุทรปราการ​ ลั่น​ครอบครัวเสื้อแดง​คือครอบครัวเพื่อไทย วอน​ผนึกกำลังแลนด์​สไลด์ทั้งแผ่นดิน​ หวังยึดอำนาจรัฐคืนประชาชน​


พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ที่ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล สำโรง จ.สมุทรปราการ โดยทันทีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางมาถึง ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่มาร่วมงาน โดยน.ส.แพทองธาร​ ได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้าบริเวณด้านล่าง​ ก่อนขึ้นมาบริเวณงาน​ จากนั้นได้พบปะและถ่ายรูปร่วมกับสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย​ ที่บริเวณอัศจรรย์ด้านหน้า รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่​ ที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น​ และแน่นขนัด​ ที่บริเวณอิมพีเรียล Hall ชั้น 6 นอกจากนี้ยังมีการจัดบูธให้ถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ​ ชินวัต​ร​ และนางสาวยิ่งลักษ์​ ชินวัต​ร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ผ่านระบบ​AR และสามารถปริ้นซ์​ภาพเป็นที่ระลึก​อีกด้วย

จากนั้น น.ส.แพทองธาร จะกล่าวเปิดเวทีปาฐถา ระบุว่า ครอบครัวเพื่อไทย คือประติมากรรมที่พรรคเพื่อไทยได้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ทำให้ประชาชนไม่ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเท่าที่ควร ทำให้ประชาชนห่างไกลจากพรรคการเมือง เกิดช่องว่างระหว่างกันอย่างมาก ทั้งที่เมื่อ 23 ปีที่แล้ว รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 พรรคไทยรักไทยมีสมาชิกของพรรคมากกว่า 14 ล้านคน แต่เกิดรัฐประหารปี 2549 ได้ฆ่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน​ แต่วันนี้จะมารวบรวมกันอีกครั้ง เพื่อให้มาอยู่ร่วมกัน เตรียมความพร้อมรับมือกับศึกครั้งใหญ่ที่กำลังจะเข้ามา ที่เต็มไปด้วยกับดักมากมาย อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศได้ เราต้องได้อำนาจรัฐ ซึ่งบันไดขั้นแรกคือการแลนด์สไลด์ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากพี่น้องชาวเสื้อแดงไม่มาเข้าร่วม ตนจึงอยากให้กลับมาร่วมเป็นครอบครัว​ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน​ กลับมาทำให้ประเทศดีขึ้นอีกครั้ง​


น.ส.แพทองธาร​ กล่าวว่า​ 10 กว่าปีที่ผ่านมาการเมืองเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำลายครอบครัวไปมากมาย หลายคนเป็นผู้สูญเสีย และอีกหลายคน ไม่สามารถได้อยู่กับคนที่รักได้ หลายคนเหนื่อยล้ากว่าที่จะต่อสู้ต่อ หลายคนเจ็บปวดจนคิดว่าไม่อยากจะสู้ต่อไปอีกแล้วหมดกำลังใจ เลือกที่จะหันไปสู้ในทางที่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ในวันนี้ 10 ล้านคนที่เจ็บปวดหัวมากสูญเสียทั้งชีวิต กำลังใจหาความยุติธรรมก็ไม่เจอ ตนเข้าใจดีเพราะก็ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรมเช่นเดียวกัน

น.ส.แพทองธาร​ ระบุอีกว่า ขอนับถือน้ำใจของชาวเสื้อแดงทุกคน ที่ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรมามากมายผ่านความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังมีหัวใจประชาธิปไตยและอยู่เคียงข้างกันมาตลอด​ และเชื่อว่าลึกๆแล้วทุกคนก็ยังมีความหวัง และอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยยังมีพี่น้องชาวเสื้อแดง และอย่าลืมว่าพี่น้องชาวเสื้อแดงก็ยังมีพรรคเพื่อไทย เราคือครอบครัวคนเสื้อแดง เราคือครอบครัวเพื่อไทย

พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า อุดมการณ์ของพรรคยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย นั่นก็คือเป้าหมายที่ต้องการให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และให้โอกาสประชาชนได้มีสิทธิ์บนพื้นที่แผ่นดินไทย ทำให้ประชาชนคนไทยและประเทศไทยมีกลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้ง​ แม้ว่าวันนี้ดูเหมือนว่าไม่มีทางออก แต่เชื่อมั่นว่า การที่ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ได้กลับมาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง จะทำให้ประเทศชาติกลับมาเจริญอีกครั้ง จึงต้องการพลังจากชาวเสื้อแดงทุกคน​ หากมีอุดมการณ์เป็นประชาธิปไตยคือมีอุดมการณ์เดียวกัน มีหัวใจเดียวกัน​ วันนี้ ประชาชนไม่ต้องการอะไรมากขออำนาจรัฐกลับสู่ประชาชน หลังจากนั้น นายภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์​ แกนนำครอบครัวเพื่อไทย​ สมุทรปราการ​ ได้มอบรายชื่อสมาชิกพรรคจำนวน​ 5,000 รายชื่อ​ ให้แก่ น.ส.แพทองธาร


ต่อมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวว่า บ้านของพรรคเพื่อไทยได้สร้างขึ้นมานานแล้ว แม้จะโดนทุบทำลายไปหลายครั้ง แต่ก็ทำลายได้แค่ภายนอก แต่ โครงสร้างที่แข็งแรง ลงเสาเข็มไปแล้วก็ยากที่จะทำลาย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ซึ่งตอนนั้นมีแนวคิดลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส จนชนะด้วยจำนวนส.ส.248 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลจนสำเร็จ สมัยต่อมาก็ได้รับความไว้วางใจต่อเนื่อง ได้จำนวน ส.ส.377 ที่นั่ง หลังจากนั้นปี 2549 ก็ถูกรัฐประหาร และในที่สุดก็ถุกยุบพรรคไทยรักไทยปี 2550 และโดนรัฐประหารครั้งนั้นทำให้เกิดวิกฤติฉับพลัน ต่อมาได้รวบรวมดีเอ็นเอไทยรักไทย กลับมาสู่พรรคพลังประชาชนอีกครั้ง ด้วยแนวคิดนโยบายดี ใครก็พูดได้ แต่คนที่ทำได้อยู่ที่พรรคพลังประชาชน และชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ก็ทำงานในนามพรรคพลังประชาชนได้ไม่นาน ก็ถูกยุบอีกครั้ง จนเกิดเป็นบ้านหลังใหม่แห่งนี้คือ “เพื่อไทย”แต่เพื่อไทยตอนนี้ต้องการสมาชิกที่มากกว่านี้ สร้างความแข็งเกร่งให้กับบ้าน เพื่อให้ได้บ้านหลังนี้หลังใหญ่ แต่หัวใจเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เป็นที่สังเกตได้ว่า ภายในงานให้ความสำคัญกับเหตุการณ์​การสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ของกลุ่มคนเสื้อแดง​ ซึ่งพื้นที่สมุทรปราการ ถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย​และกลุ่มเสื้อแดงเดิม​ จึงอาจเป็นการปลุกและผนึกกำลัง​ ฐานเสียงคนเสื้อแดงให้กลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม​ เพราะหนึ่งในวีดีทัศน์​การระบุคำพูดชัดเจนว่า​ “กลับบ้านเราเถอะครับ พี่น้องเสื้อแดง” ซึ่งเป็นเสียงของนายวรชัย​ เหมะ​ แกนนำพรรคเพื่อไทย​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]