กกต.จัดอบรมเลือกตั้งสมานฉันท์ผู้ว่ากทม.-สก.

ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ 5 เม.ย.-  กกต.จัดอบรมเลือกตั้งสมานฉันท์ ผู้ว่าฯกทม-สก. ทำความเข้าใจกฎหมาย-ป้องกันทำผิดเลือกตั้ง พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม


สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร  จัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์  ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร   โดยเชิญผู้สมัครมาร่วมประชุมเพื่อรับฟังและทำความเข้าใจและชี้แจงข้อกฎหมาย   ระเบียบข้อควรปฏิบัติต่างๆเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง   การป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง   และร่วมประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยอมรับเรื่องรู้แพ้รู้ชนะรู้ภัย รู้รักสามัคคี เพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างสุจริตโปร่งใส ไม่ใส่ร้ายป้ายสีกันและกัน   และลดการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์   โดยมีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก. สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก เช่น  พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข  6    นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3   นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์   ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8   นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 4    น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 7     นายโฆสิต  สุวินิจจิต  ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 24 และนายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 22

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวเปิดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์   ว่าการเลือกตั้ง สก. และผู้ว่าฯ กทม.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้   ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งผู้ที่จะมาบริหารและติดตามตรวจสอบการบริหาร กทม. ซึ่งเป็นมหานคร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ   ที่จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่มีปัจจัยทางสังคมที่แตกต่างและหลากหลาย   ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย   ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ดำเนินการหรือจัดการควบคุมการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง   และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง   ต่างมีพันธะร่วมกัน ที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริต  เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย   และถือเป็นโอกาสดีที่ผู้สมัครทุกคนจะได้แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยการสุจริตโปร่งใสเที่ยงธรรม เต็มใจและสมัครใจในการประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้งร่วมกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ดีงามให้สังคมปละประชาชนได้รับรู้รับทราบ


นายอิทธิพร  ยังกล่าวว่าสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสมานฉันท์ สุจริตและเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง คือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องรู้จักหน้าที่ และปฏิบัติให้เป็นไปตามหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50 ได้บัญญัติหน้าที่ของบุคคลไว้ โดยอนุมาตรา 3 บัญญัติว่าบุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในบริบทนี้คือกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น  อนุมาตรา 6 บัญญัติว่าเคารพและไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น   และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม   อนุมาตรา 7 บัญญัติว่า ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ    และอนุมาตรา 10 บัญญัติว่า ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตในทุกรูปแบบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในรัฐธรรมนูญ   หากทุกคนได้ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวแล้วเชื่อมั่นว่าจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้กฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบันมีสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากกฎหมายฉบับก่อนๆ ทั้งคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง   วิธีการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบัน กกต.ได้จัดทำแอพพลิเคชั่น “Smart Vote” หรือ “ฉลาดเลือก”    ซึ่งมีข้อมูลที่สำคัญทั้งกฎหมายท้องถิ่น คำถาม-ตอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง การตรวจสอบสิทธิต่างๆเกี่ยวกับการเลือกตั้ง รวมทั้งช่องทางการแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งผ่านแอพพลิเคชั่น “ตาสับปะรด” แต่เมื่อถึงเวลาที่การหาเสียงเพิ่มความเข้มข้นขึ้น แนะนำให้โทรสายด่วน 1444   ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กกต.ให้คำปรึกษาทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้การหาเสียงเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมานฉันท์

หลังจากนั้น   นายอิทธิพร พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กกต. ได้เป็นสักขีพยานในการประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้งร่วมกันของผู้สมัคร ส.ก. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยมีรายละเอียดว่า ข้าพเจ้าจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   ข้าพเจ้าจะถือปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบที่เที่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ข้าพเจ้าจะแข่งขันเลือกตั้งตามกติกา รู้แพ้ รู้ขนะ รู้อภัย และรู้รักสามัคคี    ข้าพเจ้าจะดำรงรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน ความเป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้องในท้องถิ่น ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ข้าพเจ้าจะไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตเลือกตั้ง และการซื้อสิทธิซายเสี่ยงทุกรูปแบบ และขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะแข่งข้นเลือกตั้งในครั้งนี้ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของประเทศรวมทั้งจะเป็นองคาพยพที่สำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง ยั่งยืน สืบต่อไป. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย