“พล.อ.ประวิตร” ห่วงประชาชนพื้นที่ภาคใต้ สั่ง กอนช.เร่งลดผลกระทบจากฝนตกหนัก

28 ก.พ. – “พล.อ.ประวิตร” ห่วงประชาชนพื้นที่ภาคใต้ สั่ง กอนช.พร้อมหน่วยเกี่ยวข้องเร่งลดผลกระทบจากฝนตกหนัก


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ที่ยังมีสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่และมีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น จึงสั่งการและเน้นย้ำให้บูรณาการหน่วยงานภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) อาทิ กระทรวงมหาดไทยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร กรมชลประทาน รวมถึง ศอ.บต.ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการเร่งด่วน พร้อมให้ทุกฝ่ายลงพื้นที่ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดี โดยเฉพาะการจัดหาอาหาร ยาและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ สำหรับการดำเนินชีวิตประจำวัน ย้ำไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน เป็นการทำงานที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนให้ดีที่สุด และให้ความช่วยเหลือไปอย่างทันท่วงที พร้อมถึงการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิดเพื่อแจ้งเตือนภัยในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ได้ทันต่อสถานการณ์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้รายงานผลการลงพื้นที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาจุดน้ำล้นข้ามพนังกั้นน้ำบริเวณหมู่ 1 บ้านมูโนะ ประมาณ 15 เซนติเมตร จากปริมาณน้ำที่ไหลจากแม่น้ำโก-ลก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนมูโนะ มากกว่า 500 ครัวเรือน และเข้าท่วมถนนหมายเลข 42 ทำให้ต้องปิดการจราจรช่องทางขาออกจังหวัดนราธิวาส กรมชลประทานได้เร่งเสริมบิ๊กแบ็ก (Big Bag) บริเวณพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำโก-ลก ที่ ต.มูโนะ เป็นการเร่งด่วน เพื่อรับมือกับมวลน้ำในแม่น้ำโก-ลก ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้เพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้กับพนังกั้นน้ำดังกล่าวให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเรือท้องแบน เข้าไปเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณดังกล่าวประมาณ 10 ครัวเรือนออกจากพื้นที่แล้ว


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กอนช.ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีฝนตกในพื้นที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ จ.ยะลา บริเวณ อ.บันนังสตา อ.ยะหา และ อ.รามัน พื้นที่ จ.ปัตตานี บริเวณ อ.สายบุรี อ.ยะรัง อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี พื้นที่ จ.นราธิวาส บริเวณ อ.แว้ง อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร อ.สุไหงปาดี อ.ตากใบ อ.รือเสาะ อ.จะแนะ และอ.สุไหงโก-ลก ทั้งนี้ กอนช. ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชนในพื้นที่เสี่ยงและลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.