สั่งจัดการเด็ดขาดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทำเนียบรัฐบาล 19 ม.ค.- นายกฯ ห่วงแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สั่งดีอีเอสบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข เพิ่มช่องทางแจ้งเบาะแส เชื่อประชาชนมีส่วนร่วมจะทำให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ ลงดาบเจ้าหน้าที่เอี่ยว-ละเว้น


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลากหลายช่องทางถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชน ระบาดอย่างมากในช่วงเวลานี้ โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชน จึงกำชับให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวง

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบผู้กระทำความผิดจะต้องถูกลงโทษทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อยกเว้น หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด รวมถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา” รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มช่องทางการแจ้งเบาะแสสำหรับประชาชน โดยเชื่อว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน จะช่วยให้แก้ไขปัญหาได้อย่างดี มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และยังแนะนำให้เพิ่มการสร้างการรับรู้ต่อประชาชน โดยเฉพาะการจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้เกิดการรับรู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

“ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลือกใช้วิธีการในหลายรูปแบบเพื่อหลอกลวงประชาชน เช่น อ้างเป็นบริษัทจัดส่งพัสดุ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศาล อ้างเป็นพนักงานธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน รวมถึงใช้ระบบเพื่อให้เห็นว่าโทรจากต่างประเทศ ขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงินกับบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ขอให้บุตรหลาน  ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเตือน ให้คำแนะนำแก่ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพ และหากพบพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอให้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามต่อไป” รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน