ทำเนียบรัฐบาล 8 พ.ย.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมบริหารจัดการที่ดิน ตั้ง “พล.อ.ณัฐ” ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนบริหารจัดการที่ดิน ยึดประโยชน์สูงสุดประเทศ-ปชช. ต้องทั่วถึง เป็นธรรม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง มาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดทำนโยบาย และแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ กำลังดำเนินนโยบายหลักของรัฐบาล 4 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ การอนุรักษ์ที่ดินและทรัพยากรดิน 2. ด้านการใช้ที่ดินและทรัพยากรดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ด้านการจัดที่ดินให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และ 4.ด้านการบริหารจัดการฯ และรับทราบความก้าวหน้าการจำแนกที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ยังไม่ได้สำรวจ โดยกรมพัฒนาที่ดินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดแผนการสำรวจจำแนกไว้ 6.3 ล้านไร่ ซึ่งมีผลการดำเนินการ ระยะแรก เสร็จแล้ว จำนวน 25 จังหวัด (2.4 ล้านไร่ ) คิดเป็น 38% และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 42 จังหวัด (3.9 ล้านไร่) คิดเป็น 62%
จากนั้น ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธานคณะทำงานติดตามและขับเคลื่อนนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ให้มีความต่อเนื่อง รวดเร็ว และเห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดิน จ.สระแก้ว และจ.นครพนม (ขอเปลี่ยนแปลงมติครม.เดิมเฉพาะแห่ง) โดยส่งมอบการจำแนกที่ดิน จ.สระแก้ว 10,805ไร่ โดยให้สปก.นำไปดำเนินการ และส่งมอบการจำแนกที่ดิน จ.นครพนม 1,648ไร่ เป็นที่ในราชการทหารให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการต่อไป
ที่ประชุมเห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดิน จ.เพชรบุรี รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร 1,640 ไร่ และจำแนกเป็นที่ดินทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น 4,685 ไร่ และจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าไม้แก่น”จ.ปัตตานี ให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม 139 ไร่ จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเป็นที่ทำกิน 5,614 ไร่ และเป็นป่าชุมชน 10 ไร่รวมทั้ง ได้เห็นชอบให้คณะทำงาน ติดตามฯตรวจสอบข้อมูลจากกรมป่าไม้กรณี กองทัพภาคที่ 3 ส่งคืน พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำความตั้งใจของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยเน้นการช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้มีที่ทำกิน และการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับผู้ด้อยโอกาส อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย