fbpx

กสม.ระบุ จนท.-กลุ่มชุมนุมมีพัฒนาการดีขึ้น

กสม. 4 พ.ย.-กสม.ย้ำข้อเสนอเปิดพื้นที่ปลอดภัยแสดงความคิดเห็น ปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนชุมนุมเหมาะสม เน้นการชุมนุมปราศจากอาวุธ เชื่อทุกฝ่ายพัฒนาการดีขึ้น ความรุนแรงไม่น่าห่วง


นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงถึงการติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลัง กสม.มีข้อเสนอแนะเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็กในสถานการณ์การชุมนุม ว่า ได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งในการชุมนุมที่ดินแดง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 และที่ประชุมมีข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก การป้องกันคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของเด็กในสถานการณ์ชุมนุม   

“กสม.มีหนังสือ 3 หน่วยงานดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธาน กสม. นายสุชาติ เศรษฐมาลินี น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช และผมได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะกับผู้แทน 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด โดย กสม.ได้เน้นย้ำข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและการคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของเด็กในสถานการณ์การชุมนุม เช่น ควรจัดให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็นจากเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมชุมนุม เพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน และเปิดพื้นที่การใช้สิทธิและเสรีภาพ โดยปราศจากความรุนแรงทั้งต่อร่างกายและจิตใจ” นายวสันต์ กล่าว


นายวสันต์ กล่าวว่า หน่วยงานรัฐควรมีแนวปฏิบัติและวิธีการที่เหมาะสมในการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน โดยจัดให้มีระบบดูแลเด็กและเยาวชน ตั้งแต่เริ่มชุมนุม ระหว่างชุมนุม หลังการชุมนุม และควรแยกกลุ่มผู้ชุมนุมให้ชัดเจน ระหว่างผู้ก่อความรุนแรง และไม่ก่อความรุนแรง นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรจัดอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงมิติของเด็กและเยาวชนด้วย รวมทั้งให้ดูแล คุ้มครอง ปกป้องการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีมาตรการไม่ให้เกิดการตีตรา กลั่นแกล้ง และสร้างความเกลียดชังในโลกออนไลน์กับผู้ที่มีความคิดเห็นต่าง

“หน่วยงานที่เข้าร่วมการประชุมเห็นพ้องกับข้อเสนอแนะของ กสม. โดยให้ความสำคัญกับกลไกการเปิดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรับฟังความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ และยังหารือถึงแนวทางการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อคุ้มครองการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กในพื้นที่การชุมนุม รวมทั้งแนวปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะสมตามหลักสิทธิเด็กในกระบวนการจับกุมและดำเนินคดีต่อเยาวชนด้วย ทุกหน่วยงานพร้อมสนับสนุนและดำเนินการตามแนวทางข้อเสนอแนะดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่ง กสม.ยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็น และเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และยุติการใช้ความรุนแรงต่อกันทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย โดยเจ้าหน้าที่จะต้องใช้แนวทางในการจัดการและควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากลอย่างเคร่งครัด” นายวสันต์ กล่าว

เมื่อถามถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้การชุมนุมเกิดความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายวสันต์ กล่าวว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลายจากโควิด-19 มีการเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ การชุมนุมอาจจะมีมากขึ้น แต่เรื่องความรุนแรง หวังว่าการใช้ความรุนแรงหรือการปะทะกันจะลดลง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทั้งฝั่งผู้ชุมนุมและฝั่งเจ้าหน้าที่ โดยทางฝั่งเจ้าหน้าที่ เราได้พูดคุยกันอยู่ตลอดว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ขอให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขณะที่ผู้ชุมนุม เราคิดว่าสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงออกทางความคิดเห็นที่ได้รับการคุ้มครองจะต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ  ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแล  


“การชุมนุมใหญ่ครั้งหลังสุด เจ้าหน้าที่ตั้งด่านกลั่นกรองอาวุธในพื้นที่ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมติดริบบิ้นให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อแยกเด็กกับผู้ชุมนุมโดยทั่วไปชัดเจนขึ้น ซึ่งเห็นว่าเป็นพัฒนาการที่ดี ส่วนเรื่องความรุนแรงในระยะหลังอาจจะเบาบางลง หากมีเวทีพูดคุยกัน มีกติกาการชุมนุมที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราคิดว่าสถานการณ์เรื่องความรุนแรงไม่น่าเป็นห่วง” นายวสันต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้