คลองแม่ข่า ต้นแบบฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง


กระทรวงมหาดไทย 20 ต.ค.- ปลัดมหาดไทย ประชุมติดตามการพัฒนาคลองแม่ข่า จ.เชียงใหม่ ชูต้นแบบการฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัด มท. หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง รศ.ชูโชค อายุพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวทางตามหลักการทรงงาน ซึ่งได้ทรงเน้นย้ำหลัก “บวร” คือ การทำงานร่วมกันของบ้าน วัด ราชการ และจิตอาสา ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่ชาวมหาดไทยยึดถือมาตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน โดยการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้นำท้องถิ่นที่สำคัญ คือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นภาคีสำคัญในการแก้ปัญหาบำบัดน้ำเสียคลองแม่ข่า และการจัดการสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ วันนี้ได้เชิญนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ซึ่งประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาลำน้ำคูคลอง มาร่วมนำเสนอวิธีการขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกความคิดเห็น ทุกความปรารถนาดีที่ทุกคนมีกับบ้านเมือง จะเป็นแนวทางที่สำคัญในการขับเคลื่อนงาน โดยร่วมระดมสรรพกำลัง สรรพความคิดเห็น ประสบการณ์ ของคนในสังคม มาช่วยกันทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับส่วนรวม ซึ่งผมมีแนวคิดในการขับเคลื่อนงานว่า “Change for good” ซึ่งหมายถึง การจะสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้น ต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตทุกคน ใครที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ภาคส่วนไหน และมีจิตอาสาช่วยงาน เมื่อทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมก็จะเกิดสิ่งดีและมีค่าแก่สังคม


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยากเห็นบ้านเมืองของเรามีความสะอาด สวยงาม ผู้คนมีความรัก ความสามัคคี ช่วยกันฟื้นฟูสิ่งที่เคยดีงามและเสียหายไป ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานให้พวกเราช่วยกัน “แก้ไขในสิ่งผิด” ซึ่ง “คลองแม่ข่า” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผิดพลาดอยู่ นั่นคือ แต่เดิมมีความสวยงาม สะอาด ร่มรื่น แต่ปัจจุบันน้ำเน่าเสีย ลำน้ำมีความสกปรก รกรุงรัง ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในเรื่องของการเคารพสาธารณสถาน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้สนองพระราชดำริ ในการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและประชุมหารือร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ร่วมกันดำเนินงานแก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของการพยายามทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด และทุกคนทุกฝ่ายได้รับการดูแลกัน โดยกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการช่วยเหลือ ติดตาม และสนับสนุนการบริหารงานแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำเสียและสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเราจะให้คลองแม่ข่า เป็นต้นแบบของจังหวัดภาคเหนือในการช่วยกันฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง และคุณภาพชีวิต ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมชุมชนเมือง ให้มีสภาวะที่ดี เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะสมกับการเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคระบาด ซึ่งในขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินการไปมีความก้าวหน้าพอสมควรแล้ว

จากนั้น ที่ประชุมได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า รวมทั้งข้อคิดเห็นในการพัฒนาคลองแม่ข่าให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน

ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า จากในอดีตที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ การดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า มีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะได้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนและต่อยอดให้สมบูรณ์ต่อเนื่อง โดยเน้นชุมชนคนริมคลองและบูรณาการภาคเอกชน โดยใช้ชุมชนช่วยคิด ช่วยทำ ให้เกิดมรรคผล และจะสานต่อแนวคิดการขับเคลื่อนพัฒนาคลองแม่ข่าของท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ให้สำเร็จ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน และเกิดการพัฒนาสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่


โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จำนวน 3 ช่วง ตั้งแต่อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอหางดง ความยาวกว่า 30 กิโลเมตร สภาพปัญหาที่สำคัญที่ผ่านมา เช่น การรุกล้ำลำน้ำ คุณภาพน้ำ สภาพตื้นเขิน และการขาดความร่วมมือของผู้ประกอบการและชุมชน เป็นต้น การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วน ตามมาตรการต่างๆ มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ เช่น การจัดหาน้ำต้นทุน ภายใต้โครงการน้ำดีไล่น้ำเสีย ด้วยการนำน้ำดีจากคลองส่งน้ำแม่แตง การขุดลอกลำห้วย การปรับปรุงระบบส่งน้ำ และการปรับปรุงแก้มลิง การแก้ไขการบุกรุกที่ดิน การปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย การบังคับใช้กฎหมาย การสร้างจิตสำนึกชุมชน จิตอาสา และการปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น

ด้าน รศ.ชูโชค อายุพงศ์ กล่าวว่า การพัฒนาคลองแม่ข่า ได้ขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ “คลองสวย น้ำใส ไหลดี ชุมชนมีสุข” มีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 60 “น้ำเสีย” เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา ขอให้กระทรวงมหาดไทยช่วยเร่งรัดการทำงานใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) กรมโยธาธิการและผังเมือง : การดำเนินงานก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบการระบายน้ำ ระยะที่ 2 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา (2) องค์การจัดการน้ำเสีย : การสำรวจ ออกแบบ ระบบบำบัดน้ำเสียรวมของจังหวัดเชียงใหม่ และความพร้อมในทุกด้าน เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในแหล่งต่างๆ และ (3) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น : การปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ ตลอดจนการดูแลรักษา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ดังเช่นการพัฒนาคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำข้อสั่งการของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติในการพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียของบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่ได้ก่อสร้างไปแล้วก่อนหน้านี้ ขอให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม และกองทุนสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะร่วมกันบริหารจัดการค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้มีระบบบำบัดน้ำเสียประจำบ้าน เช่น ถังดักไขมัน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการสร้างระบบสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อให้เกิดมาตรฐานในการดูแลสิ่งแวดล้อม และต้องรีบเร่งขุดลอกโคลนเลนที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้น้ำเน่าเสีย และเติมน้ำลงในลำคลองให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย เร่งดำเนินการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำปิงให้แล้วเสร็จ และในระยะยาวให้องค์การจัดการน้ำเสีย ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำระบบบำบัดน้ำเสียให้ครบทั่วทั้งจังหวัด โดยขอให้ตั้งเป้าหมายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ผมอยากเห็นสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นกับนครเชียงใหม่ และเป็นต้นแบบให้ชุมชนเมืองอื่นๆ โดยนำเอาสิ่งดีๆ จากท้องถิ่นต่างๆ มาประยุกต์ใช้ และขอฝากไปยังท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ จัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นตัวกลางในการประสานแผนและงบประมาณลงไปในพื้นที่ เพื่อจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย และเรื่องอื่นๆ ซึ่งจะได้ติดตามและหาทางทำให้ความฝันของทุกคนประสบความสำเร็จและเกิดความยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย