กทม.-5 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ผลักดันราคาปาล์มน้ำมันทะลุ 8 บาทปี 64 ช่วยพี่น้องเกษตรกรฝ่าวิกฤตโควิด -19
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มในช่วงสถานการณ์โควิด 19 สั่งการให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน ติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันให้เกิดเสถียรภาพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อความอยู่ดีกินดีของชาวเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร กำชับด้านดีมานด์ซับพลาย เพิ่มความต้องการในการใช้ และบริหารสตอกส่วนเกินให้เกิดสมดุล โดยตั้งทีมงานกำกับดูแลใกล้ชิด จนสามารถผลักดันราคาผลปาล์มทะลายให้อยู่ที่ระดับ 5-8 บาท ทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของผลปาล์มในช่วง 3 ไตรมาสปี 2564 สูงถึง 81,000 ล้านบาท คาดว่ายอดเงินที่ชาวสวนปาล์มได้รับมีแนวโน้มสูงถึง 100,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับมูลค่า 50,000 ล้านบาทเศษ ในปี 2562 สูงขึ้นราว 100 % โดยราคาเฉลี่ยตลอดปีสูงกว่าระดับประกันรายได้ 4 บาทต่อ กก.
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ริเริ่มนโยบายผลักดันการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์ม เพื่อเพิ่มความต้องการในการใช้ รองรับความเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรฐาน Euro 5 ซึ่งได้มีการเตรียมการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ เป็นฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน มี พล.อ.ภุชพงศ์ พงษ์ศิริ และ ดร.บุรินทร์ สุขพิศาล เป็นรองประธาน ดำเนินการผลักดันการแปรรูปด้านการผลิต การตลาด และมาตรการส่งเสริมการลงทุนและสิ่งแวดล้อมให้ผลิตภัณฑ์เป้าหมายจากน้ำมันปาล์ม เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ 6 ชนิดไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 8 มิ.ย. 64 เช่น น้ำมันหล่อลื่นชีวภาพ ผงซักฟอกชีวภาพ พาราฟินเพื่อใช้เป็นสารแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้เคลือบกันน้ำให้บรรจุภัณฑ์ชีวภาพที่จะใช้แทนพลาสติก น้ำมันหน้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ และเห็นชอบในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ที่ 7 คือ น้ำมันกรีนดีเซล (Bio hydrogenated Diesel) และผลิตภัณฑ์ที่ 8 น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Biojet Fuel) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างที่คณะทำงานฯ นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เพื่อเห็นชอบและรายงานต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในการผลิตกรีนดีเซลและไบโอเจ็ทรายสำคัญในภูมิภาคของโลก รองรับการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศในภูมิภาคต่อไป .-สำนักข่าวไทย