“วิโรจน์” แนะ ศธ.ปรับหลักสูตรเรียนออนไลน์

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- “วิโรจน์” แนะกระทรวงศึกษาธิการ ปรับหลักสูตรเรียนออนไลน์ จำกัดการบ้านให้ชัด ตัดวิชาไม่เหมาะออก จัดงบใหม่ เยียวยาความสูญเสีย เพื่อสร้างความปกติใหม่ในระบบการศึกษา


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงสะท้อนถึงปัญหาการเรียนออนไลน์ไม่มีประสิทธิภาพ ว่า ต้องยอมรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง ยืดเยื้อ ยาวนาน และมีความเป็นไปได้สูงว่า การระบาดของโรคยังคงต้องทอดยาวในระดับที่ไม่สามารถวางใจได้ต่อไปอีกหลายเดือน มาตรการการเรียนออนไลน์ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน เป็นเพียงมาตรการในระยะสั้นเท่านั้น เพราะด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เกิดขึ้นกับทั้งโรงเรียนและครอบครัวของนักเรียน การเรียนออนไลน์ภายใต้หลักสูตรที่ไม่ได้ปรับปรุงอะไรเลย นอกจากจะไม่ได้ประสิทธิผลอย่างที่ควรจะเป็นและส่งผลเสียต่อเจตคติต่อการเรียนรู้แล้ว ยังจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นักเรียนที่เข้าไม่ถึงทรัพยากร ก็จะยิ่งถูกทิ้งห่างมากขึ้น เมื่อเทียบกับนักเรียนที่มีเศรษฐสถานะที่ดีกว่า

นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ว่า กระทรวงศึกษาธิการ ควรปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการเป็นมาตรการในระยะยาว ที่ตอบโจทย์กับปัญหาความเหลื่อมล้ำได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น


  1. ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นกรณีเฉพาะ โดยให้สอนเฉพาะวิชาหลักเท่านั้น ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ สำหรับวิชาอื่นๆ ที่การเรียนการสอนไม่เหมาะกับการเรียนแบบออนไลน์ เช่น สังคมศึกษา ศิลปะ ดนตรี พลศึกษา สุขศึกษา การงานอาชีพ พระพุทธศาสนา หน้าที่พลเมือง ลูกเสือ และเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการทดลองในห้องปฏิบัติการ และการฝึกปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายอาชีวศึกษา ให้พิจารณาพักการเรียนการสอนไว้ก่อน แล้วให้ปรับรูปแบบการเรียนการสอน ให้อยู่ในรูปแบบที่บูรณาการวิชาเหล่านี้เข้าด้วยกัน แล้วจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน ในรูปแบบกิจกรรม เมื่อโรงเรียนสามารถเปิดได้ สำหรับนักเรียนที่เรียนในระดับชั้นที่เป็นปลายช่วงชั้นที่ไม่สามารถเลื่อนการเรียนการสอนได้ อาจจำเป็นต้องเรียนแบบออนไลน์ แต่ก็ควรปรับการเรียนการสอนให้อยู่ในรูปแบบบูรณาการหลายวิชาเข้าด้วยกัน เพื่อลดเวลาเรียนลง
  2. กระทรวงศึกษาธิการ ควรมีออกประกาศอย่างจริงจัง เพื่อให้โรงเรียนจำกัดการสั่งการบ้าน และรายงาน ที่เป็นภาระแก่นักเรียน โดยการบ้านควรมีเฉพาะในวิชาหลักเท่านั้น และไม่ควรสั่งการบ้านที่เป็นภาระแก่นักเรียน และไม่ตอบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ อาทิ การให้นักเรียนถ่ายคลิปการเดาะลูกตะกร้อ ถ่ายคลิปการรำต่างๆ ซึ่งเป็นภาระแก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง เป็นอย่างมาก
  3. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประเมินผล ให้ใช้การสอบกับเฉพาะวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ เท่านั้น สำหรับวิชาอื่นๆ ไม่ได้พักการเรียนเอาไว้สอนในเทอมหน้า ให้ใช้การประเมินผลด้วยวิธีอื่น เช่น การตอบคำถามท้ายคาบ การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน หรือวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ใช่การสอบ และไม่ใช่การมอบหมายรายงาน ที่เป็นสร้างภาระให้กับนักเรียน
  4. กระทรวงศึกษาธิการ ควรจัดทำสื่อการเรียนรู้กลางที่มีคุณภาพ พร้อมเอกสารประกอบการเรียนการสอนที่ครบถ้วน ในทุกรายวิชา ทุกระดับชั้น ที่นักเรียนทุกคนทั่วประเทศ สามารถใช้ในการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันโรงเรียนที่มีเงินทุนสนับสนุน ก็สามารถพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้ แต่จะจำกัดให้แต่นักเรียนของตนเท่านั้นที่จะเข้าถึงสื่อการเรียนรู้นั้นได้ สำหรับสื่อการเรียนรู้ DLTV และ DLIT ที่มีอยู่ ก็ไม่มีคุณภาพที่มากพอ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังควรจัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดซื้อแท็บเล็ต พร้อมซิมอินเทอร์เน็ต เอาไว้จำนวนหนึ่ง สำรองไว้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อจ่ายแจกให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนได้ใช้เรียนแบบออนไลน์อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งจัดสรรงบประมาณรายหัวใหม่ โดยเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การศึกษา และอาจโอนเงินในส่วนของค่าชุดนักเรียนให้มาเป็นค่าอุปกรณ์ทางการศึกษาแทน เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง สามารถนำเงินดังกล่าวไปจัดซื้อแท็บเล็ต พร้อมกับชำระค่าอินเทอร์เน็ตได้
  5. ต้องยอมรับว่า เงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท เป็นเพียงเงินเยียวยาเบื้องต้นเท่านั้น ปัจจุบันนักเรียนจำนวนไม่น้อยกำลังประสบกับภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการในระยะยาว ในสถานการณ์โรคระบาดที่โรงเรียนไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ กระทรวงศึกษาธิการ จึงควรหารือกับนายกรัฐมนตรี ในการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดสรรเงินรายหัวที่อุดหนุนโรงเรียนส่วนหนึ่ง จ่ายเป็นค่ายังชีพให้แก่นักเรียน สำหรับโรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุนรายหัว ซึ่งเงินอุดหนุนดังกล่าวมีเงินเดือนของครูผู้สอนรวมอยู่ในนั้นด้วย ให้รัฐบาลพิจารณาใช้งบกลาง หรืองบประมาณจากเงินกู้ อุดหนุนเพิ่มเติม โดยให้ใช้มาตรการนี้ทั้งในเทอมนี้ และเทอมถัดไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย
  6. กระทรวงศึกษาธิการ ควรเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาตรา พ.ร.ก.กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้ผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา สามารถกู้ยืมเงินในระยะสั้นแบบปลอดดอกเบี้ย เพื่อการศึกษา ผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยให้รัฐบาลรับผิดชอบดอกเบี้ย และค้ำประกันเงินกู้ให้
  7. กระทรวงศึกษาธิการ ควรเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาออก พ.ร.ก.ชดเชยเยียวยาแก่เด็กและเยาวชนที่สูญเสียพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2010 (COVID-19) โดยให้รัฐบาลอุดหนุนงบประมาณเพื่อเลี้ยงดู และส่งเสริมการศึกษาให้กับเด็กเหล่านี้ โดยให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นผู้จ่ายเงิน และติดตามผล
  8. เร่งจัดหาวัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลต่อเชื้อกลายพันธุ์ มาฉีดให้กับนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยมีกำหนดการและแผนการฉีดวัคซีนที่ชัดเจน เพื่อให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติให้เร็วที่สุด

    “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดวันนี้ เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับแล้ว เราอาจจะไม่สามารถกำจัดให้โรคๆ นี้ออกไปจากโลกใบนี้ได้ อย่างไรก็ตาม พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กๆ และประชาชนคนไทย มีความจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ กระทรวงศึกษาธิการ มีความจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ใหม่ วางหลักสูตรใหม่ กำหนดแผนการเรียนการสอนใหม่ จัดสรรงบประมาณใหม่ เพื่อสร้างความเป็นปกติใหม่ (New Normal) ของระบบการศึกษาไทยได้แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย