นายกฯ เสนอกุญแจสำคัญ 3 ดอก สู่การฟื้นตัว-เติบโตยั่งยืนหลังโควิด

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม EEF เสนอกุญแจสำคัญ 3 ดอก สู่การฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนภายหลังโควิด-19


วันนี้ (3 กันยายน 2564) เวลา 15.08 น. ตามเวลาประเทศไทย (ซึ่งตรงกับเวลา 18.08 น. ของเมือง Vladivostok) ณ มหาวิทยาลัย Far Eastern Federal เมือง Vladivostok สหพันธรัฐรัสเซีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม Eastern Economic Forum (EEF) ครั้งที่ 6 ในช่วงการประชุมเต็มคณะ (Plenary Session) ภายใต้หัวข้อ “Through crisis towards rejuvenation” A search for ways of growth in a post-pandemic period ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมการประชุม EEF ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างผู้นำ ร่วมกันหาแนวทางสู่การฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทางออกจากวิกฤติโควิด-19 ที่หลายประเทศกำลังเผชิญ รวมทั้งไทย คือ การที่ทุกประเทศสามารถเข้าถึงและมีการกระจายวัคซีนได้อย่างครอบคลุมโดยเร็วที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำและเรียกร้องให้วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะของโลก และขอให้ประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอแล้ว แบ่งปันและเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกภูมิภาคโดยเร็ว


สำหรับประเทศไทย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับประชากรในประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนชนิดต่างๆ ซึ่งบางโครงการอยู่ในขั้นตอนทดลองในมนุษย์ มีผลที่น่าพอใจ จึงเห็นได้ว่า ไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางการกระจายวัคซีนของภูมิภาค

จากสถานการณ์โควิด-19 IMF และธนาคารโลก ได้รายงานตัวเลขคนยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100 ล้านคน ในปี 2020 ตอกย้ำความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้น และจะดำเนินต่อไปถึงยุคหลังโควิด-19 โดยเฉพาะประเด็นช่องว่างของการพัฒนาและความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทุกประเทศจึงต้องร่วมกันยึดมั่นระบบพหุภาคีนิยม และเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันให้มากขึ้นบนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอมุมมองของไทยเกี่ยวกับกุญแจสำคัญ 3 ดอก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เพื่อนำไปสู่การฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ภายใต้วิถีปกติใหม่ ดังนี้

กุญแจสำคัญดอกแรก คือ การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการรักษาสมดุลระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความเท่าเทียมทางสังคม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยไทยได้ประยุกต์ใช้ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green Economy (BCG) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการต่อยอดความเข้มแข็งของไทยในด้านเกษตรกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งไทยยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทุกประเทศ


กุญแจสำคัญดอกที่สอง คือ การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ห่วงโซ่อุปทานระหว่างภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม MSMEs โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนการค้ารูปแบบเดิมให้เป็นการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะการปรับกฎระเบียบของภาครัฐให้รองรับการค้าแบบดิจิทัล การปรับโครงสร้างภาคแรงงานที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวเข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่ได้ ซึ่งรวมถึงการ upskill และ reskill ตลอดจนเร่งจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างภูมิภาคเพิ่มเติม รวมถึงสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ ไทยจะเดินหน้าหารือกับประเทศสมาชิก EAEU รวมทั้งรัสเซีย และคาซัคสถาน ต่อไป

กุญแจสำคัญดอกที่สาม คือ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนแนวความคิดในการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกัน ซึ่งไทยอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกันอย่างดีเลิศ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ทันสมัย พร้อมเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนใน EEC โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยส่งเสริม นอกจากนี้ การเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไทยได้ดำเนินโครงการ Phuket Sandbox และ Samui Plus พร้อมเสนอให้มีการหารือเพื่อจัดทำแนวปฏิบัติด้านการเดินทาง และการใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่จะมีขึ้นในอนาคต

วิกฤติโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง การจะกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมได้นั้น ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจอย่างจริงจังในทุกระดับ ซึ่งไทยได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ทั้งในกรอบ UN และองค์กรระดับภูมิภาค โดยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปีหน้า ไทยจะผลักดันวาระที่มุ่งไปสู่การฟื้นตัวหลังโควิด-19 โดยเฉพาะการเดินทางและการท่องเที่ยว และการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ซึ่งต้องขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไทยหวังจะขับเคลื่อนภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน มีภูมิคุ้มกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

อนึ่ง EEF เป็นเวทีหารือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกไกลของสหพันธรัฐรัสเซีย ด้วยการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซียเข้ากับเอเชียแปซิฟิก โดยในการประชุมครั้งนี้ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม และมีผู้นำระหว่างประเทศ อาทิ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ร่วมส่งวีดิทัศน์ด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]