รัฐสภา 17 ส.ค.-กมธ.ตำรวจสภาฯ เผยหลังเชิญตำรวจดูม็อบมาให้ข้อมูลยืนยันใช้หลักสากล ยังไม่พบหลักฐานใช้กระสุนจริง ขออย่าเร่งปรักปรำ ฟังข้อมูลรอบด้าน บอกใครมีข้อมูลให้แจ้งกมธ. 19 ส.ค.นี้เชิญผบช.น.ชี้แจงที่สภา
นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมการชุมนุมที่ผ่านมาว่า กมธ.ตำรวจได้ติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด และได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ไม่ว่าจะที่แยกราชประสงค์หรือหลาย ๆ แห่ง ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีความรุนแรงมากขึ้น เกิดการปะทะและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน โดยได้ขอข้อมูลเบื้องต้นและภาพจากสื่อมวลชน
นายสัญญา กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการยืนยันว่าใช้หลักสากลควบคุมมวลชน ไม่ว่าจะเรื่องขั้นตอน แนวทางการใช้เครื่องมือเข้าควบคุม อาทิ การใช้กระบอง การยิงกระสุนยาง การใช้น้ำฉีด การใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งกมธ.ตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลาว่า ขอให้ใช้หลักสากลอย่างเคร่งครัด และได้รับคำยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริงควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจากที่ได้เห็นภาพหลักฐานยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธจริง
“อย่าเพิ่งปรักปรำหรือโจมตี ขอให้ได้ฟังข้อมูลทุกด้าน แต่หากท่านใดมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เกินกว่าที่ระเบียบกำหนด หรือใช้อาวุธจริงเข้าปราบปราม ทางกมธ.ตำรวจยินดีที่จะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมฝูงชน โดยในวันที่ 19 ส.ค. กมธ.ตำรวจจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในการเข้าควบคุมมวลชนเข้ามาชึ้แจงที่รัฐสภา” นายสัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า จะสอบถามผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง นายสัญญา กล่าวว่า ความจริงแล้วมีช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งข้อมูลมาได้ นอกจากเราจะไปประสบเหตุและรู้ว่าเป็นใคร ก็อาจจะเชิญเขามา วันนี้หลายกรณีทางกมธ.ตำรวจก็มีความสนใจ แต่คนที่ได้รับผลกระทบที่มีข้อมูล ขอเชิญให้ส่งข้อมูลมาที่กมธ.ตำรวจ เราจะได้นำมาพิจารณาและจะเชิญมาให้ข้อมูล
ส่วนจะประสานแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาให้ข้อมูลหรือไม่ นายสัญญา กล่าวว่า ไม่ได้ประสาน ต้องเน้นไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่าปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกรอบหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลด้านเดียว เพราะเราแสวงหาข้อเท็จจริง หากเราพบว่าบุคคลใดได้รับผลกระทบเราก็อาจจะเชิญมา หากพบหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย