กระทรวงการต่างประเทศ 11 ส .ค. – โฆษก กต. เผยทูตถาวรสหรัฐหารือ รมว.กต. ย้ำพัฒนาสัมพันธ์สองประเทศทุกมิติ เตรียมมอบไฟเซอร์ให้ไทยอีก 1 ล้านโดส พร้อมเงิน 5 ล้านดอลลาร์ รับมือโควิด-19
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่นางลินดา โทมัส กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกา ประจำสหประชาชาติ เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม ว่าได้หารือร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐอเมริกาในการฟื้นฟูพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาค โดยเฉพาะการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 พร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นในสถานการณ์ของเมียนมา ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา โดยสหรัฐอเมริกาสนับสนุนบทบาทของไทยในเรื่องดังกล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นางลินดาได้เยี่ยมชมการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลเมดพาร์ค ถนนพระราม 4 พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์มนุษยธรรมในกรอบพหุภาคีและสหประชาชาติบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งภายหลังการเยี่ยมชม นางลินดาแถลงข่าวย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐอเมริกาในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศไทย ทั้งทางการทหาร สาธารณสุข และครอบคลุมทุกสาขา
“นางลินดาได้กล่าวย้ำถึงนโยบายของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะช่วยเหลือวัคซีนทั่วโลกจำนวน 500 ล้านโดส โดยไม่มีเงื่อนไข และพร้อมมอบวัคซีนไฟเซอร์ให้ประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 1,000,000 โดส เพื่อให้รัฐบาลไทยบรรลุเป้าหมายการฉีควัคซีนให้กับประชาชนจำนวน 50 ล้านคน หรือร้อยละ 70 ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ และมอบเงินจำนวน 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนประเทศไทย ในการรับมือกับโควิด-19 และมอบเงินอีกจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่กลุ่มเปราะบางบริเวรณชายแดนไทย-เมียนมา” นายธานี กล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงจำนวนชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย และลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วว่า เดือนกรกฎาคม มีชาวต่างชาติรับวัคซีนแล้วทั้งสิ้น 280,085 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 20,000 คน.-สำนักข่าวไทย