กทม. 13 ก.ค.-โฆษก ศบศ. แจงผู้ไม่หวังดีสร้างเฟคนิวส์ป่วนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยันยังไม่ปิดเกาะภูเก็ต เดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตามแผน โวนักท่องเที่ยวยังทยอยเดินทางมา
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ประเด็น Phuket Sandbox ควบคุมการแพร่โควิด-19 ไม่อยู่ สั่งปิดทั้งเกาะภูเก็ตแล้วนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้ ยังไม่มีการปิดเกาะภูเก็ต และการดำเนินการ Phuket Sandbox ยังดำเนินการตามแผนเดิม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือประชาชนไม่ส่งต่อข้อความดังกล่าว เพื่อป้องกันข่าวปลอมหรือข่าวที่ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ซึ่งตอนนี้จังหวัดภูเก็ตได้มีการตรวจคัดกรองป้องกันตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในส่วนผู้ที่ติดเชื้อทุกรายเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ก็กักตัวตามมาตรการเช่นกัน
โฆษก ศบศ. กล่าวต่อว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว จากปีละประมาณ 450,000 ล้านบาท ในปี 2563 มีรายได้เพียง 108,464 ล้านบาท และ 5 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 5,200 ล้านบาท เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้ลูกจ้างและผู้ประกอบการต่างๆ ต้องปิดกิจการ โดยธุรกิจเป็นแบบพึ่งพาชาวต่างชาติ ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตอยู่ในสถานะมีความเปราะบางสูงมาก โครงการPhuket Sandbox จึงมีความสำคัญในการนำร่องของการเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยตั้งแต่มีการเปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงวันนี้เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว มียอดนักท่องเที่ยวสะสมจำนวน 4,778 คน มีการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวน 176993 คืน โดย ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในช่วง 3 เดือนแรก ของการเปิดภูเก็ต ไว้ที่จำนวน 100,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 8,900 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวอีกว่า จังหวัดภูเก็ตได้ปรับความเข้มข้นในการเดินทางเข้าภูเก็ตทั้งจากในและต่างประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 15-31 กรกฎาคม 2564 ข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 จังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งที่ 3858/2564 และ คำสั่งที่ 3860/2564 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด (กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ พื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี สระบุรี ชัยนาท นครนายก ระยอง ปราจีนบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง นครสวรรค์ ตาก อุทัยธานี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี นครราชสีมา นครศรีธรรมราช กระบี่ ระนอง) ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส หากเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนกา จำนวน 1 เข็ม ต้องได้รับมาแล้วอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ด้วยวิธี Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน หรือ RT-PCR มีผลตรวจโควิดไม่เกิน 7 วัน โดยทุกคนต้องดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน หมอชนะ และยินยอมให้เข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลาที่อยู่ในภูเก็ต.-สำนักข่าวไทย