โควิดติดเชื้อพุ่งรายวัน พบคลัสเตอร์ใหม่หลายพื้นที่

ทำเนียบรัฐบาล 10 ก.ค. – ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,326 ราย เสียชีวิตพุ่งเกือบ 100 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายพื้นที่ ขณะที่ ศบศ.กำลังพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเสนอ ครม.ต่อไป


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,326 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,115 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,567 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,548 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 192 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 19 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 326,832 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 3,841 ราย ยอดรวมหายป่วยแล้ว 243,918 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 80,289 ราย อาการหนัก 2,738 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 717 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 91 ราย เป็นชาย 47 ราย หญิง 44 ราย อยู่ใน กทม. 51 ราย สมุทรปราการ 9 ราย นนทบุรี 8 ราย ปทุมธานี 5 ราย นครปฐม 4 ราย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นราธิวาส จังหวัดละ 2 ราย เพชรบุรี มหาสารคาม กำแพงเพชร สงขลา เพชรบูรณ์ ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 2,625 ราย ขณะที่การฉีดวัคซีน วันที่ 9 ก.ค. ฉีดไปได้ 399,908 โดส ทำให้ขณะนี้มียอดฉีดสะสม 12,375,904 โดส ส่วนสถานการณ์โลกมีผู้ป่วยสะสม 186,838,796 ราย เสียชีวิตสะสม 4,035,175 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด ได้แก่ กทม. 3,191 ราย ปทุมธานี 672 ราย สมุทรปราการ 603 ราย สมุทรสาคร 551 ราย ชลบุรี 359 ราย นนทบุรี 334 ราย สงขลา 225 ราย ลพบุรี 207 ราย สระบุรี 175 ราย และปัตตานี 173 ราย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายพื้นที่ คือ บริษัทผลิตน้ำประปา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยรายใหม่ 9 ราย, จ.นครปฐม พบ 2 คลัสเตอร์ คือ ตลาดสมภพ อ.สามพราน 31 ราย และโรงงานพลาสติก อ.นครชัยศรี พบผู้ป่วยใหม่ 28 ราย และบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พบผู้ป่วย 10 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชน ถ้าไม่จำเป็นอย่าเคลื่อนย้ายในช่วงที่มีการประกาศห้ามเดินทาง ขณะที่มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) กำลังพิจารณาเตรียมการเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ส่วนมาตรการไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารนั้น ต้องขอความร่วมมือ เพราะปัจจุบันข่าวลือข่าวเท็จออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในที่ประชุม ศบค.มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ และขอความร่วมมือต้องบังคับใช้กฎหมายข้อนี้อย่างเต็มที่ และฝากว่า ข้อกำหนดที่ออกมาได้มอบให้แต่ละจังหวัดไปสื่อสารกับประชาชน เพราะข้อกำหนดแต่ละข้อปฏิบัติไม่เหมือนกันในแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ เป็นการพิจารณาล็อกดาวน์เป็นจุดๆ ซึ่งการป้องกันโรคที่จะสำเร็จได้ นอกจากมาตรการภาครัฐแล้ว ผู้ประกอบการและภาคประชาชนต้องร่วมมือ สิ่งที่ควบคุมโรค คือ การควบคุมคน ขอให้ช่วยกันอดทน ตนไม่สบายใจที่ต้องออกมาพูดข้อกำหนดต่างๆ เพราะเป็นการจำกัดสิทธิประชาชน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง