ส.ว.ค้านแก้มาตรา 144และ 185

รัฐสภา 22 มิ.ย. – กมธ.แก้ความยากจน ส.ว. ค้าน แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ 185 เพราะตัดบทลงโทษ ส.ส. และ ส.ว. ก้าวก่ายงบการเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ที่มีนายสังศิต พิริยะรังสรรค์เป็นประธาน ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 13 ฉบับ ที่รัฐสภากำลังพิจารณาโดยกรรมาธิการ มีมติไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ 185 เนื่องจากบทบัญญัติทั้ง 2 มาตรา ได้วางหลักการสำคัญ ที่ห้ามมิให้ ส.ส. สว. รวมถึงคณะรัฐมนตรี เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ และมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใด ๆของหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นหลักการที่บัญญัติไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 แม้ว่าการเสนอแก้ไขครั้งนี้จะยังไม่ได้ทำลายหลักการสำคัญดังกล่าว แต่การเสนอแก้ไขตัดทอนส่วนสำคัญ ที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2560 ออกไป ทั้งการตัดบทลงโทษ ส.ส.สว.ครม. และข้าราชการประจำที่มีส่วนในการเข้ามาใช้งบประมาณรายจ่าย  ตัดข้อห้าม สส.และ สว.เข้ามามีส่วนในการใช้จ่ายหรืออนุมัติงบประมาณรายจ่าย และการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากบทบัญญัติส่วนที่ถูกเสนอตัดออกไปจาก 2 มาตรา ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ได้รับสมญาว่า “รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง” โดยนำมาเป็นสาระสำคัญชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนในช่วงก่อนลงประชามติ     ทั้งนี้ บทบัญญัติในมาตรา185 ยังสอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งไทยเป็นสมาชิกอยู่ ดังนั้น หากมีการแก้ไขตัดออกจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือ การค้า และการลงทุน ได้


นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการฯ ในฐานะโฆษกวิปวุฒิสภา ชี้แจงถึงการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า เป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 144 และ 185 ของพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้าย ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจการลงมติของวุฒิสภา ที่มีเอกสิทธิ์ในการลงมติ ส่วนการจัดสัมมนาถึงแนวทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จัดโดยวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย) นั้น ก็เป็นการจัดเสวนา Morning Talk ไม่ได้มีการกำหนดถึงแนวทางการลงมติใด ๆ แต่เป็นการให้ข้อมูลแก่ ส.ว.ในการพิจารณาลงมติ เช่นเดียวกับการเสนอตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ถือเป็นเรื่องที่ ส.ว.แต่ละคนจะพิจารณา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ