ทำเนียบ ฯ 14 มิ.ย. – โควิดวันนี้ติดเชื้อ 3,345 ราย ตาย 17 เผยพบผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายใน 24 ชม. 339 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3,355 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,345 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 1,723 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 838 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 784 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 10 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 199,264 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 17 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 1,466 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3,530 ราย รวมยอดรักษาหาย 157,944 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 39,854 ราย เป็นการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 14,008 ราย โรงพยาบาลสนาม 25,846 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,261 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 360 ราย
ทั้งนี้ในรอบ 24 ชั่วโมง มีการตรวจพบการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย รวม 339 ราย โดยพบมากสุดบริเวณแนวชายแดน 321 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ จากมาเลเซีย 1 ราย กัมพูชา 3 ราย ผ่านด่านข้ามแดนถาวร 1 ราย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขังลดลง 784 ราย พบเบาหวานความดันไขมันในเลือดสูง ยังเป็นปัจจัยให้เกิดความรุนแรง และเป็นการติดจากคนอื่นและในครอบครัวมาก ขณะที่หายป่วยสูงขึ้น 3,500 ราย ยังรักษาอยู่ 39,854 ราย อาการหนัก 1,261 ราย ใส่เครื่องช่วย 360 ราย
สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ มีจังหวัดนครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา สงขลา นครศรีธรรมราช ปทุมธานี และชลบุรี
อย่างไรก็ตาม เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-14 มิ.ย.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 3,355 ราย มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 170,401 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,530 ราย รวมรักษาหายแล้ว 130,518 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 39,854 ราย เสียชีวิต 17 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,372 ราย
รายละเอียดผู้เสียชีวิต 17 ราย เป็นเพศชาย 7 ราย เพศหญิง 10 ราย อายุ 54-85 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 14 ราย สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจ โรคไต โรคมะเร็ง โรคอ้วน หลอดเลือดสมอง ไม่มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนอื่นๆ และคนในครอบครัว มากสุดเช่นเดิม เช่น เพื่อน เพื่อนบ้าน อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด อาชีพเสี่ยง ขับรถรับจ้าง
สำหรับ 10 อันดับ ที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 925 ราย อันดับ 2 นครปฐม 292 ราย อันดับ 3 นนทบุรี 232 ราย อันดับ 4 สมุทรปราการ 196 ราย อันดับ 5 สมุทรสาคร 158 ราย อันดับ 6 สงขลา 106 ราย อันดับ 7 พระนครศรีอยุธยา 93 ราย อันดับ 8 ปทุมธานี 83 ราย อันดับ 9 ปัตตานี 76 ราย และอันดับ 10 ชลบุรี 56 ราย .-สำนักข่าวไทย