รัฐสภา 24 มี.ค. -พ่อค้าแม่ค้าจตุจักร ร้อง กมธ.กฎหมาย สอบ กทม.ห้ามรถเข็นขายของในจตุจักร เอาไปทำที่จอดรถ ทำเสียรายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดจตุจักรกว่า 50 คน เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ที่มีประกาศห้ามผู้ค้าประเภทรถเข็นตั้งวางขายสินค้าในพื้นที่ที่เคยได้รับการผ่อนผันในตลาดนัดจตุจักร เพื่อต้องการนำพื้นที่ถนนคนเดินไปทำเป็นที่จอดรถทำให้มีร้านค้าได้รับผลกระทบ 136 ร้านค้า
นางบุญจิต ปราบพล หนึ่งในแม่ค้าที่มาร้องเรียน กล่าวว่า เดิมพ่อค้าแม่ค้าในจุดผ่อนผันริมถนนคนเดิมในตลาดจตุจักรได้รับอนุญาตวางขายสินค้าแบบตั้งโต๊ะ แต่ต่อมาทางกรุงเทพมหานครขอให้เปลี่ยนเป็นรถเข็นเพื่อความปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินไฟไหม้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นรถเข็นตามที่กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือ กรุงเทพมหานครกลับออกประกาศห้ามรถเข็นหาบเร่แผงลอย ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเป็นการใช้โอกาสช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่สามารถขายสินค้าได้มาออกประกาศยกเลิก ทำให้ผู้ค้าจำนวนมากได้รับผลกระทบขาดรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ทั้งที่ค้าขายมาหลายสิบปีและจ่ายค่าเช่าพื้นที่ถูกต้องตามระเบียบ
นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งรับเรื่องด้วยตัวเอง กล่าวว่าปัญหานี้มีประชาชน 2 กลุ่มร้องมายังกรรมาธิการ ทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการนำพื้นที่ถนนคนเดินดังกล่าวมาเป็นที่จอดรถ ซึ่งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งภายใน จำเป็นที่กรรมาธิการฯจะต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาในสัปดาห์หน้า. และเชิญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาชี้แจงโดยเร็ว ซึ่งปัญหานี้ยังสะท้อนการทำหน้าที่ของสื่อถึงการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคสช. จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้เร่งจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.โดยเร็ว เพื่อพัฒนาตลาดนัดจตุจักรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว ผู้ที่มายื่นเรื่องยืนยันว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เคยเห็นผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่มาดูปัญหา ทำให้นายสิระประกาศว่าหลังจากนี้จะนำประชาชนไปที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเพื่อพบผู้ว่าฯกทม.ด้วย.-สำนักข่าวไทย