กรุงเทพฯ 12 มี.ค.-“สมชาย” ชี้กระบวนการแก้รธน.เดินหน้าต่อไม่ได้แล้ว ขณะประธานวุฒิเรียกประชุมวิปวุฒิ 15 มี.ค.นี้
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ให้ความเห็นกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย วานนี้(11มี.ค.) เกี่ยวกับอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า แม้ศาลจะชี้ว่ารัฐสภาสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ได้มีเพียงการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) แต่ยังมีวิธีการอื่น ดังนั้นเมื่อจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ศาลระบุชัดเจนว่าต้องทำประชามติก่อน แล้วจึงกำหนดว่าจะใช้วิธีการตั้งส.ส.ร.หรือตั้งกรรมาธิการยกร่าง
“กระบวนการที่ทำอยู่ขณะนี้ ทั้งการพิจารณาวาระที่ 1-2 เป็นกระบวนการที่ทำไปก่อนล่วงหน้า ซึ่งผมมองว่าจะทำให้มีปัญหา เพราะกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนนี้ ถือเป็นกระบวนการเดียวกัน แต่หากมีผู้ตีความต่างกัน ผมก็เคารพ” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติวาระ 3 วันที่ 17-18 มีนาคมนี้ ที่ประชุมจะต้องหารือคำวินิจฉัยของศาลก่อนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เพราะคำวินิจฉัยผูกพันรัฐสภา หากจะเดินหน้าต่อไปก็ต้องกลับไปทำประชามติก่อน และถ้าทำประชามติรวบไปพร้อมกันหลังการลงมติวาระ 3 จะมีปัญหา เพราะสิ่งที่ดำเนินการมามีเนื้อหาที่เกินอำนาจจากที่ศาลวินิจฉัย คือเขียนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไว้แล้ว รวมถึงกระบวนการตั้งส.ส.ร. ทั้งที่ไม่ทำประชามติถามประชาชนก่อน จึงถือเป็นการสอดไส้
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนตัวขอตีความว่าไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภาจะวินิจฉัย แต่เมื่อมีข้อกังขา หากยังเดินหน้าไปถึงวาระ 3 ในส่วนของส.ว.ก็ต้องหารือกันก่อนตัดสินใจว่าจะเดินหน้าร่วมลงมติหรือไม่ เพราะการลงมติมีผลผูกพัน หากเดินหน้าต่อไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิด ก็อย่า ในยุคนี้ไม่มีการถอดถอนแบบในอดีต แต่จะถูกดำเนินคดีในศาลฎีกานักการเมืองด้วย
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า วันที่ 15 มีนาคมนี้ ประธานวุฒิสภาได้เรียกวิปวุฒิสภาหารือปัญหาข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นด้วยว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ซึ่งความเห็นที่ต่างกันขณะนี้เพราะยังไม่มีใครเห็นคำวินิจฉัยกลาง ดังนั้น ต้องพิจารณาจากคำวินิจฉัยกลางก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไร.-สำนักข่าวไทย