สำนักงานป.ป.ช. 10 มี.ค.-ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบ “พล.อ.ประยุทธ์ –จุรินทร์” ผู้เกี่ยวข้อง ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ จริยธรรม ปล่อยทุจริตในอคส.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.ส.ชนก จันทราทอง ส.ส.หนองคาย น.ส.อรุณี กาสยานยท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือขอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และบุคคลที่อยู่ในข่ายอีก 2 คน คือ นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.)
นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้นำเอกสารจำนวน 32 หน้า พร้อมพยานหลักฐานจำนวน 47 รายการ เช่น คลิปเสียงการประชุมร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องความยาวกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากเห็นว่านายกรัฐมนตรีนฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย กรณีจงใจร่วมกับนายจุรินทร์ ปกปิดการกระทำทุจริตในหน่วยงานของรัฐ ละเว้นไม่ระงับยับยั้งความเสียหายอันเกิดจากการทุจริต ทำให้ผู้กระทำผิดยักย้าย ซ่อนเร้น จำหน่ายจ่ายโอนเงินที่ทุจริตไปจนสิ้น ทั้งที่อยู่ในวิสัยและอำนาจหน้าที่จะระงับยับยั้งความเสียหายได้ แต่ละเว้นไม่กระทำการ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์รู้เรื่องการทุจริตก่อนหน้าวันที่ 14 กันยายน 2563 แต่กลับร่วมปกปิดการทุจริตเรื่องนี้ ทำให้สูญเงินของรัฐที่จะระงับยับยั้งได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท
“ในส่วนของนายจุรินทร์ ในฐานะผู้กำกับดูแลอคส. เป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เอื้อประโยชน์แต่งตั้งคนสนิทและผู้ช่วย ส.ส.ที่ไม่มีคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถเฉพาะตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นประธานคณะกรรมการอคส. และภายหลังแต่งตั้งได้จัดทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยางของอคส. มูลค่า 112,500 ล้านบาท มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท โดยมีพยานหลักฐานเป็นรายงานการประชุมและคลิปเสียงของประธานอคส.ที่พาดพิงนายจุรินทร์ และเห็นว่านายจุรินทร์ละเว้นการที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อกรณีดังกล่าว แต่กลับร่วมปกปิดการทุจริตเรื่องนี้ ทำให้สูญเงินของรัฐที่จะระงับยับยั้งได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่คณะกรรมการป.ป.ช ต้องสอบสวนว่านายจุรินทร์ส่อว่ารู้เห็นเป็นใจกับประธานคณะกรรมการอคส. อันเป็นความผิดต่ออำนาจหน้าที่ตามพ.ร.ก.จัดตั้งองค์การคลังสินค้า (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2535 และปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย และมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ประธานกรรมการอคส.เป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย และมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 โดยมีข้อเท็จจริงจากคำซัดทอดของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ รักษาการแทน ผอ.อคส. และกรรมการ อคส. เป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมายและมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีทราบเรื่องการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยาง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563
“จากรายงาน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ รักษาการแทนผอ.อคส. แล้วกระทำผิดหน้าที่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2535 จึงร้อง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2535 กับพวกอีกหลายรายในลักษณะแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
เมื่อถามว่าการยื่นครั้งต่อไปจะเป็นรัฐมนตรีคนไหน นายประเสริฐ กล่าวว่า ครั้งต่อไปพรรคจะยื่นสอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขณะนี้ข้อมูลหลักฐานใกล้เสร็จแล้ว กรณีแต่ตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ที่แต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติ โดยจะยื่นภายในสัปดาห์หน้าและภายในเดือนมีนาคมนี้คงจะยื่นได้หลายคน.-สำนักข่าวไทย
