fbpx

ศาลปกครองสูงสุดสั่ง กทสช. คืนเงิน “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล”

กรุงเทพฯ 8 มี.ค.-ศาลปกครองสูงสุดสั่ง กทสช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 151.7 ล้าน ให้ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ชี้บกพร่องในการบริหารทีวีดิจิทัล


ศาลปกครอง วันนี้ (8 มี.ค.) ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาในคดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด โดยนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้อง กสทช. กรณีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ โดยพิพาษาให้คณะกรรมการ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัท ไทยทีวี จำกัด จำนวน 151,730,755.58 บาท และให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพจำนวน 16 ฉบับ ที่บริษัทไทยทีวี จำกัด วางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 ให้แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ไม่สามารถคืนได้นั้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ ให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด เนื่องจากศาลเห็นว่าบริษัทไทยทีวี มีสิทธิ์แจ้งยกเลิก การประกอบกิจการได้ตาม ที่เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ข้อ17 กำหนดไว้ให้ทำได้

ส่วนการบอกเลิกสัญญา ของบริษัทไทยทีวีเป็นไปโดยชอบด้วยเหตุผลหรือไม่เห็นว่าการที่บริษัทไทยทีวี จะสามารถใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลอันเป็นสิทธิ์ตามสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่ กสทช.จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อข้อเท็จจริงในคดีปรากฏว่า หลังบริษัทไทยทีวีได้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่ 1 ทั้ง 2 ช่องรายการแล้ว แต่ปรากฏว่าการดำเนินการของ กสทช.ในการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์จากระบบอนาล็อก มาเป็นระบบดิจิทัลเกิดความล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดย กสทช. ให้ถ้อยคำยอมรับว่ากรมประชาสัมพันธ์ไม่ได้ดำเนินการติดตั้งและเปิดให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเนื่องจากติดขัดเรื่องงบประมาณ อีกทั้งการแจกคูปองเป็นไปอย่างล่าช้าถึง 6 เดือน นับแต่วันออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ การประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์ทำได้ไม่ทั่วถึง ประชาชน ไม่เข้าใจวิธีการเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์ รวมทั้งการใช้คูปอง เกิดความสับสนกับขั้นตอนและกระบวนการแจกคูปองหยุด ไม่สามารถแจกคูปองให้กับประชาชนได้ครบทุกพื้นที่ ทำให้การแลกซื้อเครื่องรับสัญญาณเป็นไปอย่างล่าช้า กรณีดังกล่าวจึงย่อมส่งผลต่อแผนการลงทุนของบริษัทไทยทีวีทั้งในด้านภาระต้นทุนและระยะเวลาการคืนต้นทุน รวมถึงยังมีความบกพร่อง ในเรื่องการควบคุมคุณภาพการรับส่งสัญญาณ ให้ผู้ใช้บริการสามารถรับชมบริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กสทช .


เมื่อสัญญาพิพาทเป็นการตกลงให้บริษัทไทยทีวี ซึ่งเป็นเอกชนนำทรัพยากรสื่อสารของชาติไปหาประโยชน์โดยรัฐได้รับประโยชน์จากค่าใช้คลื่นความถี่แต่ทรัพยากรดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะที่เป็นรูปธรรมใช้สิ้นเปลืองหมดไป เหมือนทรัพยากรธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เป็นคลื่นความถี่ซึ่งไม่อาจจับต้องได้ ที่รัฐอาจได้รับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์หรือให้เอกชนอื่นประมูลเพื่อนำไปหาประโยชน์ต่อไปได้ รัฐจึงไม่สมควรแสวงหากำไรจากเอกชนมากเกินสมควร ดั งนั้นเมื่อรัฐได้คลื่นความถี่กลับคืนมาแล้ว การได้รับค่าธรรมเนียมจึงต้องสอดคล้องกับที่ บริษัทไทยทีวีได้ใช้ประโยชน์ไปแล้วตามความเป็นจริงและสอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตสามารถคืนใบอนุญาตและมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชย

เมื่อข้อเท็จจริง ปรากฏว่าบริษัทไทยทีวีได้ใช้ คลื่นความถี่ ที่ได้รับอนุญาตไปเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาอันสั้นกว่าที่กำหนดในใบอนุญาตมาก จึงไม่สมควรต้องชำระค่าธรรมเนียมมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับสมควรกำหนดให้บริษัทไทยทีวี ต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ตามที่ได้ใช้ประโยชน์ตามความเป็นจริงโดยคำนวณเป็นค่าธรรมเนียมปีละเท่าๆกัน เมื่อบริษัทไทยทีวีมีหนังสือลงวันที่ 25พ.ค 58 ขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการ ทั้ง 2 ช่องรายการหลังจากนั้นได้ชี้แจงการยุติการให้บริการผ่านการขึ้นอักษรตัววิ่งจอโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่องรายการตลอดวันตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย 58 ถึง 24 ก.พ.58 บริษัทไทยทีวี จึงไม่สมควรต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตั้งแต่วันดังกล่าว จึงมีคำพิพากษา ให้ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัทไทยทีวีตามจำนวนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก