ผู้นำฝ่ายค้านเปรียบรัฐบาลปรสิต

รัฐสภา 16 ก.พ.-เปิดฉากซักฟอกวันแรก ส.ส.รัฐบาลห่วงญัตติพาดพิงสถาบัน ขณะที่ “ชวน” ยืนยันญัตติถูกต้อง “สมพงษ์” อัดรัฐบาลล้มเหลวเป็นได้เพียง “รัฐบาลปรสิต” กัดกร่อนอนาคต ปล่อยให้บริหารประเทศต่อไม่ได้


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (16 ก.พ.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระสำคัญคือการพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 10 คน โดยวันนี้ถือเป็นวันแรก และจะอภิปรายต่อเนื่อง 4 วัน 4 คืน ทั้งนี้ จากเดิมการประชุมจะเริ่มต้นในเวลา 09.00 น. แต่การประชุมได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.40 น. เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบกึ่งหนึ่งของที่ประชุม หรือ 244 เสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นของการประชุม เปิดให้ ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านหารือแสดงความเห็นต่อญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พาดพิงถึงสถาบัน โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลแสดงความกังวลว่าอาจจะมีปัญหาทางข้อกฎหมาย และอาจมีความไม่เหมาะสมในการใช้ถ้อยคำ ขณะที่ฝ่ายค้านยืนยันว่าเป็นสิทธิที่สามารถอภิปรายได้ และประธานสภาได้วินิจฉัยบรรจุญัตติลงในวาระแล้ว


นายชวน กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะประท้วงกันแหลกลาญ ตามที่หลายฝ่ายคาดเดา เพราะในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะ แม้จะไม่เท่ากันทุกคน แต่หากใครปฎิบัติตัวไม่เหมาะสม ประธานคุมไม่ได้ ประชาชนที่ติดตามอยู่จะคุมได้

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่าญัตติที่มีความเชื่อมโยงถึงสถาบัน อาจจะทำให้เกิดการประท้วง ทำให้บรรยากาศในสภาไม่ราบรื่น ซึ่งประเด็นนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยแล้ว จึงอยากให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อ่านข้ามหรือไม่พูดในเนื้อหาที่พูดถึงสถาบัน เพราะการหารือก่อนหน้านี้ต่อหน้าประธานสภาฯ นายสมพงษ์รับปากจะกลับไปทบทวน แต่ต่อมากลับโทรมาแจ้งกับตนว่าไม่ขอทบทวน เนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้านขอให้ยืนยันญัตติเดิม ขณะที่กรอบเวลาจะอภิปรายตั้งแต่วันที่ 16- 19 กุมภาพันธ์ และจะลงมติในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยฝ่ายค้านจะได้เวลา 42 ชั่วโมง อภิปรายทุกวันไม่น้อยกว่าวันละ 11 ชั่วโมง ขณะที่รัฐบาลมีเวลาเบื้องต้น 20 ชั่วโมงชี้แจง

นายชวน วินิจฉัยว่า ญัตติมีความถูกต้อง สามารถอ่านและอภิปรายได้ ซึ่งในอดีตสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน เคยเสนอญัติติลักษณะนี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มาแล้ว แต่คำวินิจฉัยของประธานในแต่ละประเด็นที่อภิปรายจะถือเป็นที่สิ้นสุด


กระทั่งเวลา 10.40 น. ผู้นำฝ่ายค้านเริ่มอ่านญัตติการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลรวม 10 คน โดยไล่เลียงข้อกล่าวหาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีอีก 9 คน ซึ่งเป็นไปตามญัตติที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา

นายสมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะเป็นวันเริ่มต้นนับถอยหลังไปสู่จุดจบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 4 วันนับจากนี้ การอภิปรายจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเปิดเผยความไร้ประสิทธิภาพ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติเสียหาย ประชาชนมีความทุกข์ยากจากปัญหาปากท้อง เกิดการทุจริตฉ้อฉลและคุกคามเสรีภาพของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ กลับบริหารประเทศแบบคิดไป ทำไป ไม่วางแผน ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม และโยนความผิดให้ประชาชน ทำให้เมื่อเผชิญวิกฤติอย่างโรคโควิด -19 ประชาชนจึงทุกข์ยากสาหัส ธุรกิจใหญ่น้อยต้องทยอยล้มลง แม้ธุรกิจที่ยืนหยัดต้านทุกวิกฤติมาได้หลายสิบปี ก็ต้องปิดกิจการในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์

“แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่สามารถรวมพลังผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นได้เพียง “รัฐบาลปรสิต” ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศ และกลืนกินความฝันของประชาชน ดังนั้น เราต้องร่วมสร้างการเมืองแห่งความหวัง โดยฝ่ายค้านพร้อมจะทำหน้าที่เพื่อแสดงหลักฐานว่าเราไม่อาจยินยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป แล้วฉุดรั้งให้ชีวิตประชาชนจมดิ่งสู่ความทุกข์ทนยิ่งกว่านี้อีก เชื่อมั่นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นแสงแห่งความหวัง เพื่อไล่ความมืดมนที่ พล.อ.ประยุทธ์ สร้างไว้มาเกือบ 7 ปี” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าระหว่างที่นายสมพงษ์อ่านญัตติยังไม่ทันจบ นายไพบูลย์ลุกขึ้นประท้วงว่านายสมพงษ์ อภิปรายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น แต่นายชวน กล่าวว่า นายสมพงษ์อ่านตามญัตติทุกคำ จากนั้น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงอีกคน ซึ่งนายชวนยืนยันว่านายสมพงษ์อ่านตามที่ญัตติเขียนไว้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึง ไม่ได้อ่านนอกเหนือจากญัตติ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย