กรุงเทพฯ 29 ม.ค.-“สุภรณ์” เรียกร้อง “สมพงษ์” ถอนข้อความพาดพิงสถาบันในญัตติซักฟอก ติงเพื่อไทยตกเป็นเครื่องมือบางพรรคจงใจก้าวล่วงสถาบัน มากกว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ระวังเข้าทางทฤษฎีสมคบคิด
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบัน ว่าแม้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าไม่ใช่การบังคับ อยู่ที่การตัดสินใจของฝ่ายค้าน แต่นายสมพงษ์ไม่ควรยื่นญัตตินี้มาอภิปรายฯ ซึ่งหากนายสมพงษ์และฝ่ายค้านไม่ยอมถอนและแก้ญัตติเรื่องนี้ ทำให้เห็นว่านายสมพงษ์ไม่มีความห่วงใยบ้านเมือง หากละเมิดกฎหมายบิดเบือน ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง
“นายสมพงษ์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพราะตัดสินใจไม่เป็นว่าญัตตินี้ไม่ควรยื่นอย่างยิ่ง และสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่กล้าตัดสินใจ กลายเป็นเครื่องมือให้พรรคที่คิดล้มล้างสถาบัน ยืมพรรคเพื่อไทยมาเป็นเครื่องมือนำมาอภิปรายเสียดสีสถาบัน เพื่อให้เกิดความระคายเคืองและทำร้ายจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศหรือไม่ ประชาชนที่จงรักภักดีปกป้องสถาบันจะคิดได้ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะใช้ “ทฤษฎีสมคบคิด” ล้มล้างสถาบันไปกับพรรคนั้นด้วย” นายสุภรณ์ กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวว่า หากฝ่ายค้านยังดันทุรังอภิปรายเกี่ยวข้องกับสถาบัน อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทั้งในและนอกสภาได้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่คงไม่พอใจ และเชื่อว่าจะทำให้เวทีการอภิปรายไม่ราบรื่นนัก เพราะอาจจะทำให้เกิดการประท้วงจากเพื่อนสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จะมีส.ส.ที่ปกป้องสถาบันลุกขึ้นประท้วงตลอดเวลา จนทำให้การประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้
“ผมไม่เคยมั่นใจเลยว่าฝ่ายค้านจะระมัดระวังคำพูดในการอภิปรายฯ ที่จะไม่ให้กระทบกระทั่งกับสิ่งที่ไม่บังควร เพราะเห็นจากพฤติกรรมของส.ส. บางคนหรือบางพรรคการเมืองที่มีความคิดคอยแต่จาบจ้วงสถาบัน สนับสนุนคนให้ออกมาบนท้องถนน มีพฤติกรรมที่ทำผิดมาตรา112 ตลอดมา ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้านทราบดี ขณะเดียวกันขอฝ่ายค้านอย่าโยนให้ประธานในที่ประชุมเพียงฝ่ายเดียวเป็นผู้ดูแลการประชุมให้เกิดความเรียบร้อย แต่จะต้องแก้ที่ต้นตอด้วยคือฝ่ายค้าน ไม่ควรนำมาอภิปรายแต่แรกจะดีกว่า เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปได้ด้วยดีและตรงประเด็น ผมเชื่อว่าจริง ๆ แล้วส.ส.ฝ่ายค้านไม่ได้อยากใช้เวทีนี้เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ หรือรัฐมนตรี เพราะไม่มีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมาอภิปราย แต่อยากใช้เวทีนี้เพื่ออภิปรายเรื่องสถาบันมากกว่าซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง” นายสุภรณ์ กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวว่า หากมีใครอภิปรายฯจาบจ้วงสถาบัน นายสมพงษ์ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯจะรับผิดชอบไหวหรือไม่ อย่าบอกว่าส.ส.ต้องควบคุมตนเอง เพราะมั่นใจว่าไม่มีทางทำได้แน่นอน เนื่องจากส.ส.บางคนรับงานมาพูดเรื่องสถาบันโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่สนใจประธานในที่ประชุมแน่นอน และหากพูดพาดพิงสถาบัน แม้ประธานในที่ประชุมจะสั่งให้ถอนคำพูด ตนมองว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะได้พูดไปแล้ว ประชาชนได้ยินทั่วประเทศแล้ว และคนทั้งประเทศที่ได้รับชมรับฟังจากการถ่ายทอดสด จะทำให้เกิดความรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก เกิดความความไม่พอใจจนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งบานปลายได้อีก
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เหตุใดถึงคิดไม่เป็น ดังนั้น ขอให้นายสมพงษ์ทบทวนถอนและแก้ไขญัตติตรงนี้ด้วย ยังมีเวลาที่สามารถทำได้ ควรรู้ด้วยจิตสำนึกความเป็นผู้นำและเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่ามิบังควร และอย่ายอมเป็นเครื่องมือให้ใครมาทำลายสถาบันเลย” นายสุภรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย