ย้ำอช.สานต่อศาสตร์พระราชา

กระทรวงมหาดไทย 27 ม.ค.-รมว.มท.ขอบคุณ อช.- ผู้นำอช.ทั่วประเทศ เนื่องในวาระครบ 52 ปี ย้ำสานต่อศาสตร์พระราชา พัฒนาชุมชน สู่ความยั่งยืน


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่งสารถึงอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลทั่วประเทศ เนื่องในวาระครบรอบ 52 ปีผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ว่า กระทรวงมหาดไทยขอขอบคุณอาสาพัฒนาชุมชนและผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมานะ อดทน เสียสละ และดำรงตนเป็นแบบอย่างให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด และในวาระครบรอบ 52 ปีของการดำเนินงานอาสาพัฒนาชุมชน

“ขอฝากให้ร่วมกันน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน / หมู่บ้าน ภายใต้แนวคิด “รวมพลังอช. สานต่อศาสตร์พระราชา พัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน” โดยเป็นการร่วมสร้างสังคมพัฒนาชุมชนใหม่ ด้วยการเติมความรู้ให้คนในชุมชน ร่วมพัฒนาบ้านเกิด 3 เรื่อง ประกอบด้วย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสตร์พระราชา และนวัตกรรมที่เหมาะสม ฟื้นฟู ดิน น้ำ ป่า วิถีวัฒนธรรม และร่วมเป็น ส่วนหนึ่งของกลไกสร้างความสามัคคี มีจิตอาสา พัฒนาชุมชน เพื่อให้ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติมีความพอมีพอกิน ในขั้นพื้นฐาน รวมกลุ่มยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และพัฒนาความเข้มแข็งในขั้นกลางและขั้นก้าวหน้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ครอบครัว มีความสุข ชุมชนและประเทศชาติมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตลอดไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุ


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) เป็นเพื่อนคู่คิดของพัฒนากรกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการพัฒนาอาสาพัฒนาชุมชนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2512 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนที่มีจิตอาสา สมัครเข้าร่วมพัฒนาชุมชนของตนทั้งในระดับหมู่บ้านและตำบล โดยเรียกอาสาสมัครระดับหมู่บ้านนี้ว่า “อาสาพัฒนาชุมชน หรือ อช.” ทุกหมู่บ้านละไม่น้อยกว่า 4 คน และระดับตำบลเรียกว่า “ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน หรือ ผู้นำ อช.” ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากเวทีประชาคมอาสาพัฒนาชุมชน ตำบลละ 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน

“ปัจจุบันมีอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) จำนวน 289,580 คน และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) จำนวน 13,500 คน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน / ตำบลที่ได้รับคัดเลือก โดยกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข พัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ช่วยเหลือ สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงาน / โครงการ หรือกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน รวมทั้งเป็น ผู้ประสานงานระหว่างองค์กรประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชนต่าง ๆ นอกจากนี้กรมการพัฒนาชุมชนได้มอบหมายภารกิจให้ อช./ผู้นำ อช. ดำเนินการเพิ่มเติม10 ภารกิจ ดังนี้ 1) การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. /กชช.2 ค. 2) การขับเคลื่อนแผนชุมชน 3) การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4) การจัดการศูนย์เรียนรู้ชุมชน 5) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า 6) การส่งเสริมวิถีประชาธิปไตย 7) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 8) การแก้ไขปัญหาความยากจน 9) การส่งเสริมอาชีพ และ 10) การส่งเสริมกองทุนชุมชน ซึ่งผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ถือว่า อช. /ผู้นำ อช. เป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชนได้เป็นอย่างดี


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมการพัฒนาชุมชนได้มอบหมายภารกิจให้ อช./ผู้นำ อช. เป็นกลไกที่สำคัญในการส่งเสริม และยกระดับคุณภาพชีวิตครัวเรือนที่ตกเกณฑ์จปฐ. ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน / หมู่บ้าน โดยเน้นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการร่วมกับการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”

“การจัดกิจกรรมเนื่องในวาระครบรอบ 52 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน โดยกำหนดให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทอดผ้าป่า หรือศาสนกิจอื่น ๆ ของแต่ละศาสนา กิจกรรมการแสดงพลังอาสาพัฒนาชุมชน ได้แก่ การอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวคำปฏิญาณตน กิจกรรมการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อภิปราย สัมมนาทางวิชาการ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” การจัดนิทรรศการผลงาน/แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานของ อช./ผู้นำ อช. กิจกรรมสาธารณประโยชน์ เช่น ทำความสะอาดแม่น้ำ คู คลอง ทำความสะอาดสถานที่สำคัญของชุมชน/หมู่บ้าน กิจกรรมเอามื้อสามัคคี กิจกรรมชุมชนเกื้อกูล เป็นต้น” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กิจกรรมมอบเกียรติบัตรให้กับ อช./ผู้นำ อช. ที่มีผลงานดีเด่น และกิจกรรมอื่น ๆ เช่น กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การบริจาคสิ่งของแก่ผู้ยากไร้ กิจกรรมแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผักในธนาคารเมล็ดพันธุ์ผัก เป็นต้น ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมฯ ให้ดำเนินการตามวิธีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และเป็นไปตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ตามแนวปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนพี่น้องอช. และผู้นำ อช.ร่วมกันน้อมนำพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “สืบสาน รักษา ต่อยอด” สู่การปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีตามวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมสรรสร้างชุมชน สังคมสู่ความเข้มแข็งและมีความสุขอย่างยั่งยืน โดยสร้างภูมิคุ้มกันในทุกครัวเรือน และพัฒนาคนให้มีความรู้และปรับตัวให้สามารถดำเนินชีวิตที่ดี ท่ามกลางวิกฤตโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตอบสนองต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของโลก โดยเน้นการให้ความสำคัญของการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาดิน น้ำ สภาพแวดล้อม เป็นการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลถึงความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหาร เพื่อให้ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals –SDGs ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]