ครม.อนุมัติโครงการเราชนะ ลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ.64

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – ครม. อนุมัติแล้ว “โครงการเราชนะ” เริ่มลงทะเบียน 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com แต่จะไม่จ่ายเป็นเงินสด โดยจะจ่ายผ่าน G-Wallet


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference ที่ทำเนียบรัฐบาล

ครม. ได้อนุมัติโครงการเราชนะ และโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 กระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่


สำหรับเงื่อนไขโครงการเราชนะ รัฐบาลจะแจกเงิน 3,500 บาท จำนวน 2 เดือน โดยจะโอนเงินผ่านเป๋าตัง G-Wallet ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด และต้องใช้เงินในเป๋าตัง G-Wallet ให้หมดภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ หากใช้ไม่หมดจะไม่สามารถใช้เงินในเป๋าตัง G-Wallet ได้ หลังวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย 31.1 ล้านคน กรอบวงเงิน 210,000 ล้านบาท จากงบเงินกู้เพื่อเยียวยา โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ในวันที่ 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับกลุ่มที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล

นายสุพัฒนพงษ์ ระบุด้วยว่า สาเหตุที่ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด 2 เดือน รวม 7,000 บาท เพราะไม่อยากให้มีการสัมผัสตัวเงิน การให้เงินสดไม่สามารถกำกับการหมุนเวียนได้ รวมทั้งอยากให้ประชาชนได้สัมผัสสังคมไร้เงินสด นอกจากนี้การใช้เงินสดไม่สามารถควบคุมได้ เพราะอาจจะนำไปใช้ซื้อสุรา เล่นการพนัน และนำไปใช้จ่ายตามร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ตรงกับนโยบายที่ต้องการให้เงินกระจายอยู่ในกลุ่มคนตัวเล็ก ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นระบบที่ดีระบบหนึ่ง สำหรับวิธีการจ่ายเงินจะมีการโอนเงินเข้าเป๋าตัง G-Wallet ทุกวันพฤหัสบดี ผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะโอนเข้าครั้งละ 1,000 บาท รวม 7 ครั้ง และผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อเดือน จะโอนให้สัปดาห์ละ 700 บาท รวม 10 ครั้ง จนครบ 7,000 บาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายของมาตรการเราชนะ ได้แก่ อาชีพอิสระ เกษตรกร หาบเร่ แผงลอย รับจ้าง คล้ายกับมาตรการเราไม่ทิ้งกัน หลักการคือ ช่วยคนตัวเล็กที่ได้รับผลกระทบ เงินที่ได้คล้ายแนวคิดกับคนละครึ่งที่ใช้กับคนตัวเล็กด้วยกัน เมื่อซื้อบริการก็ซื้อจากคนตัวเล็ก แม่ค้าหาบเร่ แผงลอย นิติบุคคลก็ยังสงวนสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดการหมุนเวียน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด สำหรับผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาโครงการเราชนะ กลุ่มเป้าหมายจะกว้างขวางกว่าโครงการคนละครึ่ง โดยจะเป็นผู้อยู่ในอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย รับจ้าง เกษตรกร และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องเข้าหลักเณฑ์ ดังนี้
1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
2.ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33
3.ไม่เป็นลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ และไม่เป็นข้าราชการ
4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5.เป็นผู้ที่ไม่ได้เงินบำนาญหรือเบี้ยหวัด
6.ไม่เป็นผู้มีอาชีพอิสระแต่มีรายได้ไม่เกินปีละ 3 แสนบาทต่อปี
7.หากมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทรวมทุกบัญชี จะไม่ได้รับสิทธิ โดยจะมีการตรวจสอบผ่านบัญชีธนาคารทุกแห่ง


กลุ่มที่จะได้รับสิทธิอัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียน
1.ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน
2.ผู้ที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ประมาณ 15.3 ล้านคน ที่จะถูกคัดกรองอีกครั้ง

ส่วนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะมีกลุ่มเป้าหมายที่เหลืออีกประมาณ 1.34 ล้านสิทธิ จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของเช้าวันพรุ่งนี้ (20 มกราคม 2564) เป็นต้นไป และจะสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งได้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมนี้

เราเจาะลงไปดูเฉพาะกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ที่จะได้เงินเยียวยา “เราชนะ” 3,500 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวม 7,000 บาท โดยกระทรวงการคลังโอนเงินเข้าระบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียน www.เราชนะ.com

ย้ำว่ามาตรการเยียวยาการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 จากที่กระทรวงการคลัง นำเสนอมาตรการเยียวยาภายใต้ชื่อโครงการ “เราชนะ” เพื่อช่วยเหลือประชาชนจำนวน 31.1 ล้านคน

ในจำนวนนี้มีประมาณ 14 ล้านคน ที่ได้รับสิทธิเงินเยียวยา “เราชนะ” คือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้ถือบัตรเกือบ 14 ล้านคน ได้รับสิทธิโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยไม่ต้องลงทะเบียน www.เราชนะ.com

ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2564) กรอบวงเงินทั้งโครงการ “เราชนะ” กระทรวงการคลัง นำมาใช้จำนวนทั้งสิ้น 210,200 ล้านบาท

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
1.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(รายได้กว่า 30,000 บาท/ปี ได้รับเงินในบัตรฯ 200 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 10,127,587 คน คนละ 3,200 บาท รวมจํานวน 31,408.2784 ล้านบาท

2.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(รายได้ระหว่าง 30,000-100,000 บาท/ปี ได้รับเงินในบัตรฯ 300 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 3,610,436 คน คนละ 3,300 บาท รวมจํานวน 11,914.4388 ล้านบาท

ส่วนรูปแบบการใช้จ่ายเงิน : ไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ สามารถนำไปชำระค่าสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าเท่านั้น

สำหรับโครงการเราชนะ คุณสมบัติ
1.ผู้มีสัญชาติไทย 18 ปีขึ้นไป
2.ไม่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33
3.ไม่เป็นข้าราชการ
4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5.ไม่รับบำนาญหรือเบี้ยหวัดจากราชการ
6.ไม่มีรายได้เกิน 3 แสนบาท
7.เงินฝากทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท
ใช้แพลตฟอร์มมือถือทั้งหมด เพื่อรับโอนเงินจากรัฐบาล เพื่อลดภาระการต่อคิวเหมือนเมื่อเยียวยาครั้งแรก “เราไม่ทิ้งกัน”

กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่ต้องลงทะเบียน ได้สิทธิโดยอัตโนมัติ)
กลุมที่ 2 ประชาชนที่มีฐานข้อมูล แอปฯ เป๋าตัง เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน (ไม่ต้องลงทะเบียน ได้สิทธิโดยอัตโนมัติ)
กลุ่มที่ 3 ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลภาครัฐ

วิธีการรับเงิน
กลุ่มที่ 1 โอนเงินให้สัปดาห์ละครั้งเริ่มวันที่ 5 ก.พ. จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
กลุ่มที่ 2 จ่ายเงินรายสัปดาห์ละ 1,000 บาท 18 ก.พ. โอนเงินครั้งแรก
กลุ่มที่ 3 เปิดให้ลงทะเบียน 8 ก.พ. โอนเงินให้วันพฤหัสบดีทุกสัปดาห์ โอนเงินงวดแรก 18 ก.พ.
ระยะเวลาการใช้เงินได้ถึง 31 พฤษภาคม 2564 หากใช้สิทธิไม่หมดไม่มีสิทธิใช้เงินต่อ

“เราชนะ” หนึ่งในโครงการที่เป็นมาตรการจากรัฐบาล เพื่อเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่หนึ่งในเงื่อนไขของมาตรการนี้ ระบุว่าผู้ที่อยู่ในระบบ “ประกันสังคม” มาตรา 33 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 11 ล้านคน จะไม่ได้รับสิทธิในมาตรการนี้
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มีอะไรบ้าง
1.แรงงานอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 60 ปี ที่มีนายจ้าง
2.อยู่ในระบบบริษัท (พนักงานประจำ)
3.มีการส่งเงินประกันสังคมทุกเดือนในจำนวน 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท

โดยคนมีอยู่ในมาตรา 33 จะมีมาตรการเยียวยา “ประกันสังคม” ดังนี้
1.รับสิทธิการลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ลูกจ้าง-นายจ้าง เหลือร้อยละ 3 ตั้งแต่จากร้อยละ 5 ตลอด 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม- มีนาคม 2564
2.กรณีว่างงาน
2.1 ว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินชดเชยร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ปีละไม่เกิน 200 วัน
2.2 ว่างงานจากการลาออก ได้รับเงินชดเชยร้อยละ 45 ของค่าจ้าง ปีละไม่เกิน 90 วัน
2.3 ว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ได้รับเงินเยียวยา 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย