ครม.อนุมัติโครงการเราชนะ ลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ.64

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – ครม. อนุมัติแล้ว “โครงการเราชนะ” เริ่มลงทะเบียน 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com แต่จะไม่จ่ายเป็นเงินสด โดยจะจ่ายผ่าน G-Wallet


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference ที่ทำเนียบรัฐบาล

ครม. ได้อนุมัติโครงการเราชนะ และโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 กระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่


สำหรับเงื่อนไขโครงการเราชนะ รัฐบาลจะแจกเงิน 3,500 บาท จำนวน 2 เดือน โดยจะโอนเงินผ่านเป๋าตัง G-Wallet ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด และต้องใช้เงินในเป๋าตัง G-Wallet ให้หมดภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ หากใช้ไม่หมดจะไม่สามารถใช้เงินในเป๋าตัง G-Wallet ได้ หลังวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย 31.1 ล้านคน กรอบวงเงิน 210,000 ล้านบาท จากงบเงินกู้เพื่อเยียวยา โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ในวันที่ 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับกลุ่มที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล

นายสุพัฒนพงษ์ ระบุด้วยว่า สาเหตุที่ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด 2 เดือน รวม 7,000 บาท เพราะไม่อยากให้มีการสัมผัสตัวเงิน การให้เงินสดไม่สามารถกำกับการหมุนเวียนได้ รวมทั้งอยากให้ประชาชนได้สัมผัสสังคมไร้เงินสด นอกจากนี้การใช้เงินสดไม่สามารถควบคุมได้ เพราะอาจจะนำไปใช้ซื้อสุรา เล่นการพนัน และนำไปใช้จ่ายตามร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ตรงกับนโยบายที่ต้องการให้เงินกระจายอยู่ในกลุ่มคนตัวเล็ก ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นระบบที่ดีระบบหนึ่ง สำหรับวิธีการจ่ายเงินจะมีการโอนเงินเข้าเป๋าตัง G-Wallet ทุกวันพฤหัสบดี ผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะโอนเข้าครั้งละ 1,000 บาท รวม 7 ครั้ง และผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อเดือน จะโอนให้สัปดาห์ละ 700 บาท รวม 10 ครั้ง จนครบ 7,000 บาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายของมาตรการเราชนะ ได้แก่ อาชีพอิสระ เกษตรกร หาบเร่ แผงลอย รับจ้าง คล้ายกับมาตรการเราไม่ทิ้งกัน หลักการคือ ช่วยคนตัวเล็กที่ได้รับผลกระทบ เงินที่ได้คล้ายแนวคิดกับคนละครึ่งที่ใช้กับคนตัวเล็กด้วยกัน เมื่อซื้อบริการก็ซื้อจากคนตัวเล็ก แม่ค้าหาบเร่ แผงลอย นิติบุคคลก็ยังสงวนสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดการหมุนเวียน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด สำหรับผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาโครงการเราชนะ กลุ่มเป้าหมายจะกว้างขวางกว่าโครงการคนละครึ่ง โดยจะเป็นผู้อยู่ในอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย รับจ้าง เกษตรกร และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องเข้าหลักเณฑ์ ดังนี้
1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
2.ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33
3.ไม่เป็นลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ และไม่เป็นข้าราชการ
4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5.เป็นผู้ที่ไม่ได้เงินบำนาญหรือเบี้ยหวัด
6.ไม่เป็นผู้มีอาชีพอิสระแต่มีรายได้ไม่เกินปีละ 3 แสนบาทต่อปี
7.หากมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทรวมทุกบัญชี จะไม่ได้รับสิทธิ โดยจะมีการตรวจสอบผ่านบัญชีธนาคารทุกแห่ง


กลุ่มที่จะได้รับสิทธิอัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียน
1.ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน
2.ผู้ที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ประมาณ 15.3 ล้านคน ที่จะถูกคัดกรองอีกครั้ง

ส่วนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะมีกลุ่มเป้าหมายที่เหลืออีกประมาณ 1.34 ล้านสิทธิ จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของเช้าวันพรุ่งนี้ (20 มกราคม 2564) เป็นต้นไป และจะสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งได้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมนี้

เราเจาะลงไปดูเฉพาะกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ที่จะได้เงินเยียวยา “เราชนะ” 3,500 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวม 7,000 บาท โดยกระทรวงการคลังโอนเงินเข้าระบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียน www.เราชนะ.com

ย้ำว่ามาตรการเยียวยาการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 จากที่กระทรวงการคลัง นำเสนอมาตรการเยียวยาภายใต้ชื่อโครงการ “เราชนะ” เพื่อช่วยเหลือประชาชนจำนวน 31.1 ล้านคน

ในจำนวนนี้มีประมาณ 14 ล้านคน ที่ได้รับสิทธิเงินเยียวยา “เราชนะ” คือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้ถือบัตรเกือบ 14 ล้านคน ได้รับสิทธิโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยไม่ต้องลงทะเบียน www.เราชนะ.com

ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2564) กรอบวงเงินทั้งโครงการ “เราชนะ” กระทรวงการคลัง นำมาใช้จำนวนทั้งสิ้น 210,200 ล้านบาท

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
1.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(รายได้กว่า 30,000 บาท/ปี ได้รับเงินในบัตรฯ 200 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 10,127,587 คน คนละ 3,200 บาท รวมจํานวน 31,408.2784 ล้านบาท

2.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(รายได้ระหว่าง 30,000-100,000 บาท/ปี ได้รับเงินในบัตรฯ 300 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 3,610,436 คน คนละ 3,300 บาท รวมจํานวน 11,914.4388 ล้านบาท

ส่วนรูปแบบการใช้จ่ายเงิน : ไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ สามารถนำไปชำระค่าสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าเท่านั้น

สำหรับโครงการเราชนะ คุณสมบัติ
1.ผู้มีสัญชาติไทย 18 ปีขึ้นไป
2.ไม่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33
3.ไม่เป็นข้าราชการ
4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5.ไม่รับบำนาญหรือเบี้ยหวัดจากราชการ
6.ไม่มีรายได้เกิน 3 แสนบาท
7.เงินฝากทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท
ใช้แพลตฟอร์มมือถือทั้งหมด เพื่อรับโอนเงินจากรัฐบาล เพื่อลดภาระการต่อคิวเหมือนเมื่อเยียวยาครั้งแรก “เราไม่ทิ้งกัน”

กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่ต้องลงทะเบียน ได้สิทธิโดยอัตโนมัติ)
กลุมที่ 2 ประชาชนที่มีฐานข้อมูล แอปฯ เป๋าตัง เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน (ไม่ต้องลงทะเบียน ได้สิทธิโดยอัตโนมัติ)
กลุ่มที่ 3 ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลภาครัฐ

วิธีการรับเงิน
กลุ่มที่ 1 โอนเงินให้สัปดาห์ละครั้งเริ่มวันที่ 5 ก.พ. จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
กลุ่มที่ 2 จ่ายเงินรายสัปดาห์ละ 1,000 บาท 18 ก.พ. โอนเงินครั้งแรก
กลุ่มที่ 3 เปิดให้ลงทะเบียน 8 ก.พ. โอนเงินให้วันพฤหัสบดีทุกสัปดาห์ โอนเงินงวดแรก 18 ก.พ.
ระยะเวลาการใช้เงินได้ถึง 31 พฤษภาคม 2564 หากใช้สิทธิไม่หมดไม่มีสิทธิใช้เงินต่อ

“เราชนะ” หนึ่งในโครงการที่เป็นมาตรการจากรัฐบาล เพื่อเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่หนึ่งในเงื่อนไขของมาตรการนี้ ระบุว่าผู้ที่อยู่ในระบบ “ประกันสังคม” มาตรา 33 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 11 ล้านคน จะไม่ได้รับสิทธิในมาตรการนี้
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มีอะไรบ้าง
1.แรงงานอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 60 ปี ที่มีนายจ้าง
2.อยู่ในระบบบริษัท (พนักงานประจำ)
3.มีการส่งเงินประกันสังคมทุกเดือนในจำนวน 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท

โดยคนมีอยู่ในมาตรา 33 จะมีมาตรการเยียวยา “ประกันสังคม” ดังนี้
1.รับสิทธิการลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ลูกจ้าง-นายจ้าง เหลือร้อยละ 3 ตั้งแต่จากร้อยละ 5 ตลอด 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม- มีนาคม 2564
2.กรณีว่างงาน
2.1 ว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินชดเชยร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ปีละไม่เกิน 200 วัน
2.2 ว่างงานจากการลาออก ได้รับเงินชดเชยร้อยละ 45 ของค่าจ้าง ปีละไม่เกิน 90 วัน
2.3 ว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ได้รับเงินเยียวยา 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย