กกต. 4 ธ.ค.- เวทีวิชาการชี้ หนุนสร้างพรรคจากท้องถิ่นสู่ระดับชาติ เชื่อพรรคการเมืองส่งผู้สมัครคำนึงถึงต้นทุนและความนิยม หวั่นขัดแย้งกันเองจนกลายเป็นปัญหาพรรคแตก
หลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง หรือ พตส.11 จัดเสวนาหัวข้อ “พรรคการเมืองกับการเลือกตั้งท้องถิ่น” โดยมีนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชการสถาบันพระปกเกล้าฯ ร่วมเสวนาฯ
นายแสวง กล่าวว่า รัฐธรรมนูญสนับสนุนให้พรรคการเมืองเป็นสถาบัน โดยให้สมาชิกและประชาชนมีส่วนร่วม และไม่ว่าการเลือกตั้งระดับไหนพรรคการเมืองหรือนักการเมืองระดับชาติก็เข้าไปเกี่ยวข้องทุกครั้ง โดยมีแนวโน้มว่าพรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครท้องถิ่นมากขึ้น เพราะเรื่องของงบประมาณ และคะแนนเสียง
นายนิกร กล่าวถึงการที่พรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ว่าส่วนตัวมีความคิดว่าพรรคไม่ควรไปยุ่งกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และตนก็ไม่เคยสนับสนุนหรือส่งใคร เพราะเห็นว่าจะเป็นการทำลายตัวเอง คือการที่คนทั้งจังหวัดเลือกพรรคแล้วจะให้ไปเลือกเขตในจังหวัด จะทำให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกกันเอง ทำให้พรรคเล็กลง แต่เห็นด้วยกับการที่พรรคการเมืองจะเริ่มจากการเมืองท้องถิ่นมาเป็นระดับชาติ และไม่ได้กลัวว่าหากไปทำผิดในการเมืองระดับท้องถิ่นแล้วจะส่งผลกระทบต่อพรรค หรือทำให้ถูกยุบพรรค เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมายคนละฉบับกัน
ด้านนายสติธร พรรคการเมืองควรส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ ต้องดูว่าพรรคมีที่มาอย่างไร ถ้าเป็นพรรคที่ต้องการเป็นพรรคระดับชาติอาจต้องคิดถึงเรื่องการสมัครท้องถิ่น ส่วนพรรคเกิดขึ้นมาเพื่อประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือกลุ่มผลประโยชน์ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปครอบพื้นที่ในระดับท้องถิ่น สำหรับพรรคท้องถิ่น ก็จะเป็นพรรคเฉพาะพื้นที่ที่อยากเป็นผู้บริหารเฉพาะในพื้นที่ เมื่อถามว่าพรรคการเมืองควรเล่นพรรคเมืองระดับไหน ขึ้นอยู่กับว่าคุ้มหรือไม่ ในการลงทุนของพรรคและต้นทุนทางการเมือง ที่พรรคจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างอำนาจกับความนิยม ซึ่งบางส่วนที่ลงสมัครขณะนี้เป็นการจัดสรรของพรรค ผลประโยชน์ของท้องถิ่นผสมกับผลประโยชน์ระดับชาติ
ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะเห็นว่าพรรคการเมืองบางพรรคโดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้านส่งผู้สมัคร เพราะไม่ได้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมานาน หวังยึดพื้นที่ เพื่อที่จะสร้างผลงาน และสร้างกระแสของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าไปพัฒนาท้องถิ่น โดยดูจากพรรคหน้าใหม่ที่ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรค แต่เป็นชื่อกลุ่ม ถ้าชนะเข้า 1 จังหวัด อะไรจะเกิดขึ้น .-สำนักข่าวไทย