กลุ่มไทยภักดีร้องศาล รธน.เบรกแก้ รธน.วาระ 2-3

ศาลรัฐธรรมนูญ 3 ธ.ค.-กลุ่มไทยภักดีร้องศาลรัฐธรรมนูญ เบรกแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2-3 ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ-ตัดสิทธิ์ ส.ว.-ไม่ทำประชามติ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ขอศาลสั่งประธานสภาฯ-ส.ส.ถอนระเบียบวาระ พร้อมสั่งเพิกถอนมติขั้นรับหลักการ


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี พร้อมด้วย นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกไทยภักดี นำเอกสารหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีล้มล้างการปกครองด้วยการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

นพ.วรงค์ กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้กระทำการส่อเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเรากลุ่มไทยภักดีในฐานะผู้ทราบเหตุการณ์ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เมื่อเรายื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว 15 วัน อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อ เราจึงใช้สิทธินี้ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง โดยมีเหตุผล 4 ข้อ คือ 1.การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่กำหนดในมาตรา 256 และมีการกำหนดให้การแก้รัฐธรรมนูญง่ายขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดสัดส่วนให้ ส.ว. และ ส.ส. แต่การแก้ไขครั้งนี้ได้ตัดสิทธิ์ ส.ว. และ ส.ส.ตามสัดส่วนออก จึงทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภา รวมทั้งมีการยกเลิกการทำประชามติในมาตราสำคัญ ๆ จึงทำให้ตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย ซึ่งถือว่ากระบวนการตัดสิทธิ์เหล่านี้เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง


นพ.วรงค์ กล่าวว่า 2.การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทำให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับต้องถูกยกเลิก ทำให้ ส.ส.และ ส.ว.ต้องถูกยกเลิก ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต้องถูกยกเลิก จึงทำให้โครงสร้างทางการเมืองและการปกครองเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับ พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องถูกยกเลิกด้วย จึงทำให้คดีต่าง ๆ ทั้งที่ถูกตัดสินไปแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ ทุกคดี จะหลุดพ้นไป เพราะกฎหมายที่ใช้บังคับถูกยกเลิก

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า 3.บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้ไขรายมาตรา ไม่ได้กำหนดว่าให้มีการแก้ไขโดยการร่างใหม่ทั้งฉบับ จึงถือว่าผู้กระทำการนั้นมีเจตนาที่จะกระทำขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และ 4.เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการทำประชามติ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้ว่า การจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรให้ประชาชนได้ลงประชามติก่อนว่าสมควรจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า ทั้ง 4 เหตุผลเป็นเหตุผลที่เราคิดว่าเพียงพอที่บ่งบอกว่าขณะนี้มีการกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเราจึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำวินิจฉัยและสั่งการ 3 ข้อ ได้แก่ 1.สั่งการให้ประธานรัฐสภาในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งระงับการบรรจุระเบียบวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 และวาระ 3 2.ขอให้ผู้ถูกร้อง คือ ส.ส.ที่ลงชื่อร่างฝ่ายค้านและร่างฝ่ายรัฐบาล ถอนระเบียบวาระออกจากที่ประชุมรัฐสภา และ 3.ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติในชั้นรับหลักการทั้ง 2 ฉบับที่ลงมติเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


เมื่อถามว่า ในส่วน ส.ส.และ ส.ว.ที่รับหลักการในวาระ 1 กลุ่มไทยภักดีจะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เราต้องรอคำสั่งศาลก่อนว่าศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไร แล้วค่อยพิจารณาอีกทีหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า