แจงตรวจสารไตรโซเดียมฟอสเฟตที่แปดริ้ว ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์

รัฐสภา 25 พ.ย.- “สมศักดิ์” ยัน นายกฯใส่ใจปราบปรามยาเสพติดสูงสุด ยอมรับ ตรวจสารไตรโซเดียมฟอสเฟตในโกดังแปดริ้ว เป็นความผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ประมาทเลิ่นเล่อ ฉะ ฝ่ายค้านกระแนะกระแหนนายกฯ หลังตั้งกระทู้ถามสดมองรัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหายาเสพติด


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของนางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีการตรวจพิสูจน์วัตถุต้องสงสัย คาดจะเป็นยาเสพติด 475 กระสอบ น้ำหนัก 11.5 ตัน ที่โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากผลตรวจเบื้องต้นจากชุดทดสอบพบว่าให้สารสีม่วงที่มีลักษณะบ่งชี้ว่าเป็นองค์ประกอบของเคตามีน และต่อมา ป.ป.ส.ได้นำวัตถุดังกล่าวเข้าตรวจสอบในห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต 66 กระสอบ ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอย่างสูงสุด ส่วนข้อกังวลว่า จะทำให้นานาชาติมองประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งยาเสพติดนั้น จากการประชุมองค์กรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของโลกได้พูดคุยกันว่า ยาเสพติดที่ผลิตจากสามเหลี่ยมทองคำนั้น มีมูลค่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.8 ล้านล้านบาทต่อปี หรือ เกือบ 60% ของงบประมาณของประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มองดูแล้วว่า หากยังปราบปรามยาเสพติดตามแนวทางของรัฐบาลอื่นที่ผ่านมา ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ขณะนี้ได้เพิ่มแนวทางการปราบปรามที่จะไปสู่การยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด จึงย้ำว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและพยายามหาแนวทางใหม่ ซึ่งในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายนนี้ จะคิกออฟการปราบปรามยาเสพติดในแนวทางใหม่


เมื่อถามถึงการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยเคตามีนนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานขอความร่วมมือจากไต้หวัน เมื่อขอความร่วมมือมาก็เข้าไปตรวจสอบโกดังดังกล่าว ซึ่งจากผลตรวจเบื้องต้นจากชุดทดสอบพบว่าให้สารสีม่วง จึงเข้าใจว่า เป็นเคตามีนล๊อตใหญ่ที่สุด ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หากไม่เข้าไปดูและแถลง ก็จะเป็นการละเลย

“ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผมจะเชื่อว่าเป็นเคตามีนหรือไม่ อย่างไร ผมปฏิเสธไม่ได้ เพราะสองแนวทางที่ตรงกัน ทั้งจากไต้หวันที่บอกว่า จับเคตามีนได้ ปะปนไปกับเคมีภัณฑ์อื่นๆ ขณะที่ ป.ป.ส.ก็ใช้เครื่องทดสอบที่ใช้อยู่ประจำ ซึ่งหากเป็นเคตามีนก็จะเป็นสีม่วง และผลทดสอบก็เป็นสีม่วง ก็ปฏิเสธไม่ได้ ก็ต้องไปแถลงข่าว ในวันแถลงข่าว ผมและเลขาธิการ ป.ป.ส.ก็พูดแล้วว่า จะต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง และวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า 66 กระสอบแรกเป็นสารสีม่วง เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ส่วนที่เหลืออีก 406 กระสอบ เมื่อวานนี้ ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นสีม่วงทั้งหมด แต่จะมีสารเคตามีน หรือสารอย่างอื่นอะไรอีกหรือไม่ ไม่ทราบ ขอใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ จะแถลงให้ทราบ ซึ่งในเรื่องการแถลง ยอมรับว่า เราผิดพลาด แต่ผิดพลาดในทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ผิดพลาดเพราะความประมาทเลิ่นเล่อ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการอบรมสัมมนาในเครือข่ายของยาเสพติดที่สมาชิกกังวลเรื่องการใช้งบประมาณจำนวนมากว่า การอบรมสัมมนาใช้งบประมาณน้อยมาก ส่วนข้อสงสัยเรื่องการเก็บของกลางหรือการขนย้ายของกลางนั้น ได้ทำหนังสือไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการขนย้ายเคตามีน และให้รายงานต่อตนให้ทราบภายในวันนี้ (25 พ.ย.) เรื่องดังกล่าวจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับทราบในทุกประเด็น ส่วนที่ระบุว่า ตรวจสอบเป็นไปด้วยความล่าช้านั้น ก็เนื่องจากมีของกลางจำนวนมาก เป็นคอนเทนเนอร์กระสอบละ 25 กิโลกรัม อีกทั้งการขนย้ายเป็นอำนาจของเลขาธิการ ป.ป.ส. ส่วนการดำเนินคดีเป็นเรื่องของอัยการที่ต้องทำสำนวนหลักฐานให้ชัดเจน จึงอาจจะต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างการทดสอบแล้วเป็นสีม่วง จนต้องหน้าแตกกันแบบนี้ ยอมรับอีกว่า เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น


จากนั้น นางมนพร ตั้งคำถามอีกว่า ขณะนี้ได้พบเจอชายไทยที่ชื่อ อภิชาติ ที่ส่งของไปยังไต้หวันแล้วหรือไม่ และขออย่าให้เป็นมวยล้มต้มคนดู และขอให้จริงใจต่อกันแก้ไขปัญหายาเสพติดเพราะที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวทุกด้าน ยาเสพติดซื้อง่ายกว่าขนม นายทุนรวยขึ้น คนจนล้นประเทศ แล้วท่านนายกรัฐมนตรีจะกอดตำแหน่งไว้เพื่ออะไร

นายสมศักดิ์ จึงลุกขึ้น กล่าวว่า “ท่านมนพรเป็นคนดีเลยนะ แต่สุดท้ายก็มากระแนะกระแหนไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี จึงขอเวลาอีก 6 เดือน แนวทางการปราบปรามยาเสพติดจะชัดเจน แล้วจะเป็นไปตามแนวทางที่ผมได้พูดไว้หรือไม่ อย่างไร ”

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ดำเนินการเช่าโกดัง เป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ในการติดตาม เบื้องต้นทราบว่า บุคคลดังกล่าวอยู่บ้านป่าโหล ตำบลแม่เมาะ อำเภอเชียงดาว เจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ ขณะนี้ยังไม่พบตัว ไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะตนเน้นเรื่องยึดทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตอบกระทู้ ทั้งนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และนางมนพร ลุกขึ้นประท้วงนายสมศักดิ์ เรื่องการใช้คำว่า “กระแนะกระแหน” ของนายสมศักดิ์ จึงขอให้ถอนคำพูด ซึ่งนายสมศักดิ์ ก็ได้ยืนยันต่อสมาชิกว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจจะกระแนะแหน แต่หากคำพูดทำให้รู้สึกไม่ดี ก็ขอถอนคำพูด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย