นายกฯระบุยังไม่ต้องใช้กม.พิเศษคุมสถานการณ์

ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ย.-นายกฯ ระบุสถานการณ์การชุมนุมวานนี้จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด แต่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ชี้กระทบความเชื่อมั่นเสถียรภาพประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม ว่า ติดตามสถานการณ์การชุมนุมตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยวานนี้(147 พ.ย.) ได้หารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อหาแนวทางดูแลการชุมนุมอย่างปลอดภัยกับทุกกลุ่มทุกฝ่ายและเป็นธรรมเรื่องสิทธิในการชุมนุม ขอให้ทุกคนชุมนุมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง ดังนั้น ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด

“ส่วนเรื่องของสภาฯ ให้เป็นหน้าที่ของสภาฯ ผมเป็นฝ่ายบริหาร มีหน้าที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแก้อย่างไรก็ว่ากันมา ผมไม่สามารถไปสั่งการอะไรได้เพราะเป็นกลไกของสภา ยอมรับว่าการชุมนุมขณะนี้มีความพยายามใช้ความรุนแรงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ซึ่งการชุมนุมวานนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน รวมถึงการใช้อาวุธต่าง ๆ โดยตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ที่พยายามทำด้วยความละมุนละม่อม แต่ก็มีความพยายามใช้กำลังกับตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บหลายราย ขอให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษมาควบคุมสถานการณ์” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนกรณีผู้ชุมนุมต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิการชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปสอบถามกลุ่มผู้ชุมนุมว่าการชุมนุมที่ถูกกฎหมายนั้นทำกันอย่างไร รวมถึงต้องศึกษากฎหมายลูกด้วย ทั้งนี้ การชุมนุมที่เกิดขึ้นกระทบเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของประเทศ รวมถึงส่งผลต่อการตัดสินใจการลงทุนจากต่างชาติ อีกทั้งช่วงนี้ เป็นช่วงที่ควรเร่งเสริมความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมมีมากกว่า จึงอยากให้คำนึงถึงคนทั้งประเทศที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ อาชีพและรายได้ด้วย ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลคนในประเทศและต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศด้วย มองว่าสถานการณ์ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาชุมนุม

ส่วนสถานการณ์วันนี้จะถือเป็นบทพิสูจน์การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนดำเนินการมาโดยตลอด การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องใช้กฎหมายกฎระเบียบและปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรก็ได้ในแผ่นดินนี้ ส่วนที่ผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุม เพื่อเพิ่มแรงกดดันนายกรัฐมนตรีให้ลาออก เพื่อทำตามข้อเสนอของผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น ต้องไปดูข้อเสนอว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งตนต้องพิจารณาจากหลายมิติ เพราะตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสังคมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ 3 ข้อของผู้ชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สังคมและคนไทยทั้งประเทศจะพิจารณา ตนไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะถือเป็นเรื่องของประเทศประชาธิปไตย จะแสดงความเห็นในเรื่องใดก็ได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบ กลไก กระบวนการที่ถูกต้องและปฎิบัติตามกฎหมาย และตนต้องยึดมั่นในหลักการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน