คปส.แนะนายกฯ ใช้กฎหมายพิเศษชัตดาวน์ประเทศ

ศูนย์รับเรื่องรางร้องทุกข์ 9 พ.ย.-คปส.ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง “พล.อ.ประยุทธ์” แนะใช้กฎหมายพิเศษ ชัตดาวน์ประเทศ แก้วิกฤติขัดแย้ง


เครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (คปส.) นำโดย นายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการเครือข่ายฯ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการชัตดาวน์ประเทศ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในขณะนี้

นายกฤตย์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ เห็นตรงกันในฐานะตัวแทนประชาชนที่จงรักภักดี จึงมายื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อบอกให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าประชาชนส่วนหนึ่งที่อยู่ข้างสถาบันและเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรี จะเป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่ ปฎิบัติหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ร้ายแรงตามที่เห็นสมควร และส่วนตัวคิดว่าการใช้กฎหมายพิเศษจะแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งที่ลงลึกไปถึงแต่ละครอบครัวได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งตนไม่ได้ระบุว่าจะต้องใช้วิธีรัฐประหาร แต่จะใช้กฎหมายใดอยู่ที่ผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศจะเห็นสมควร โดยนายกรัฐมนตรีอาจจะปรึกษากับประธานรัฐสภา และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน เช่น การตั้งสภาเยาวชนแห่งชาติ เป็นต้น


“การชัตดาวน์จะเป็นวิธีอะไรก็ตาม แต่รัฐบาล ทหาร นักการเมือง ต้องออกมาบอกประชาชนในระดับฐานรากให้หยุดเถอะ ซึ่งในหลักการคำว่ารัฐประหารของผมจะดำเนินการต่างกับการรัฐประหารที่ใช้อำนาจพิเศษ โดยการชัตดาวน์ของผม ทุกฝ่ายจะต้องมีการลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังความเห็นร่วมกัน และเรื่องนี้เราได้คุยกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศปปส.) และเครือข่ายอื่นระดับจังหวัดและภาคให้ได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้จุดยืนของเรา คือ ห้ามปฏิรูปสถาบัน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น เราไม่ขัดข้องและเห็นด้วย เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา” นายกฤตย์ กล่าว

ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยเห็นด้วยกับ คปส. คือ การปกป้องสถาบันเบื้องสูง และนายกรัฐมนตรีย้ำชัดว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เราต้องช่วยกันปกป้อง ซึ่งรัฐบาลหาแนวทางออกร่วมกัน และคนไทยไม่ว่ากลุ่มไหน ขอเรื่องเดียวคืออย่าก้าวล่วงสถาบัน ส่วนข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น เป็นแค่การหลอกให้ออกมาเคลื่อนไหว เพราะเชื่อว่าไม่ว่าใครที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ก็ไม่กล้ารับปากเรื่องปฏิรูปสถาบัน แต่แค่อยากให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรี และกลับมามีอำนาจใหม่เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว