ส.ส.พปชร. อภิปรายหนุน นายกฯ อยู่ต่อ

รัฐสภา 27 ต.ค. – “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” อภิปรายให้นายกฯ อยู่บริหารประเทศต่อ อดทนและดึงคนเห็นต่างเป็นพวก เชื่อนายกฯ ลาออก-ยุบสภา ปัญหาไม่จบ


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.จังหวัดสิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ซึ่งต้องดูที่เจตนา ว่าจริงใจหรือคิดอย่างไรกับเรา วันนี้ผู้ชุมนุมคิดอย่างไรกับบ้านเมือง ทุกวันนี้คนไทยทั้งประเทศรู้หมด ถ้าไม่รู้คงไม่ใส่เสื้อเหลืองชุมนุมทุกจังหวัด วันนี้สภาต้องเอาความจริงมาพูดกัน อย่ามาดัดจริต

“ผู้ชุนนุมปราศรัย 1 ชั่วโมง โจมตีรัฐบาล 10 นาที อีก 50 นาที โจมตีสิ่งที่อยู่เหนือรัฐบาล กล่าวหาว่ารัฐบาลเป็นหมา บอกว่าถ้าหมาข้างบ้านเห่า เขาจะไม่ไปพูดและทะเลาะกับหมา เขาจะทะเลาะกับเจ้าของหมา” ชัยวุฒิ กล่าว


ก่อนที่นายชวน จะเตือนผู้อภิปราย ให้พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดจากภายนอก แล้วนำมาใช้ในสภา เพราะเกรงว่าจะขัดข้อบังคับ และโต้ตอบกันไม่จบ เรามาหาทางออกเสนอแนะรัฐบาลไม่ใช่มาซ้ำเติม ความจริงแม้จะเป็นความจริง แต่บางอย่าง เมื่อเราเจตนาสร้างความเป็นหนึ่งเดียว อาจจะต้องหลีกเลี่ยงถ้อยคำหยาบจากภายนอก ไม่มีประโยชน์ เหมือนเราไปเห็นด้วยกับคำพูดเหล่านั้น

จากนั้น นายชัยวุฒิ อภิปรายต่อถึงการขัดขวางขบวนเสด็จที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ฉีกรูปพระบรมฉายาลักษณ์ รวมถึงการใช้ชื่อเรียกการชุมนุม ล่าสุดเรียกตัวเองว่าคณะราษฏร 2563 ตนขอย้อนถามว่า อยากจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบไหน เป็นข้อเสนอที่เขาพูดกัน แต่เราทำเป็นไม่ได้ยิน ข้อเสนอนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก

นายชัยวุฒิ ยังพูดถึงปัจจัยสนับสนุน 1 โซเซียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างชาติ ที่เราควบคุมไม่ได้ วันนี้ถึงเวลาหรือยัง ที่เราต้องเอาอำนาจอธิปไตย ทางการสื่อสารกลับมาเป็นของคนไทย เราจะปล่อยให้คนต่างชาติ เอาโซเซียลมีเดียมาทำร้ายคนไทยไม่ได้ 2 เงินทุน ทุกการเคลื่อนไหวมวลชนต้องใช้เงิน เงินมาจากไหน จากต่างชาติใช่หรือไม่ คงไม่ใช้ผู้หวังดีกับบ้านเมือง 3 นักการเมืองบางกลุ่มใช้กระแสเรื่องนี้ ในการเข้าสู่อำนาจ ใช้ทั้งสร้างคะแนนนิยม สร้างมวลชน พวกเราทราบกันดีว่า เป้าหมายของเขา ไม่ได้อยากเป็นแค่นายกรัฐมนตรี อยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น วันนี้ชื่นชมกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกมา เพราะพวกเขามองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่มีนักการเมืองบางกลุ่มไปหยิบยื่นความคิดให้ ว่าเขากำลังมีอนาคตที่ดี และจะมีอนาคตใหม่ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองก่อน เพราะมีบางอย่างกดทับอยู่


เมื่อนายชัยวุฒิ อภิปรายถึงตอนนี้ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นใช้สิทธิประท้วง เพราะมองว่าการอภิปรายของนายชัยวุฒิ ใส่ร้ายผู้ชุมนุม ว่ารับเงินจากต่างประเทศ และมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง และต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ซึ่งอดีตนายกฯ คนหนึ่ง จะเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประธานาธิบดี จนถูกล้อมปราบ และครั้งนี้ก็มีการพูดในลักษณะนี้อีก โดยพูดถึงอนาคตใหม่ ถึง 2 ครั้ง หมายความว่าอย่างไร จึงอยากให้ผู้อภิปรายถอนคำพูด

นายชัยวุฒิ ได้อภิปรายต่อ โดยยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวหาว่าพรรคอนาคตใหม่ แต่เพียงบอกว่า มีพรรคการเมือง ซึ่งเป็นใครตนไม่รู้ พยายามฝังความคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนไทยทั้งประเทศรู้ ตนจึงมีข้อเสนอให้รัฐบาล 5 ทางเลือก 1 นายกรัฐมนตรี ลาออก ตามข้อเสนอของผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นการยอมรับสิ่งที่คนรุ่นใหม่เสนอ ยอมให้มีการเปลื่ยนแปลง เพราะเขาไม่ได้ต้องการแค่ให้นายกฯ ลาออก เขาไม่ได้ทะเลาะกับหมา เขาทะเลาะกับเจ้าของหมาใช่หรือไม่ครับ เพราะฉะนั้นหากนายกฯ ลาออก ปัญหาก็ไม่จบ และหากพล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ก็ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คำถามคือ ใครจะเป็น

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงทันที มองว่า ใช้คำไม่เหมาะสม เพราะคนฟังจะรู้ทันที เป็นการเปรียบเทียบนายกฯ เป็นหมา ขอให้ถอนคำว่าหมา ออกจากที่ประชุม เพื่อให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ทำให้นายชวน บอกว่าไม่เป็นไร หากนายกฯ ไม่ประท้วง ก็ถือว่าไม่เป็นไร ซึ่งในขณะนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้นั่งอยู่ในห้องประชุม

นายชัยวุฒิ อภิปรายต่อ เสนอแนวทางที่ 2 คือ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน และท้าให้กลุ่มเยาวชนไปเลือก ส.ส.ที่ตนเองต้องการให้ได้ 375 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ท่านถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่สุดท้ายก็จะถูกประชาชนที่สวมเสื้อเหลืองมาประท้วงอีก ก็ไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นการยุบสภา เป็นเพียงการยื้อเวลาในการต่อสู้ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้

ส่วนข้อที่ 3 คือ การยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยึดอำนาจตัวเองได้ จากนั้นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นฉบับของประชาชน ซึ่งถือว่าคุณูปการหนึ่ง ในการยึดอำนาจ แต่ก็มีบทเรียนว่าการยึดอำนาจตัวเอง สุดท้ายก็อยู่ได้ไม่ได้

ส่วนข้อเสนอที่ 4 คือ การทำประชามติ ถามประชาชนว่า อยากเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เห็นด้วยกับผู้ชุมนุมหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่า หากคำถามของประชามติเหมาะสมและมีประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ วิพากษ์วิจารณ์ได้ นี่น่าจะเป็นทางออกให้กับประเทศไทย แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพูดถึงเรื่องละเอียดอ่อน

ส่วนข้อที่ 5 ไม่ต้องทำอะไรเลย ทนอยู่ไปแบบนี้ นายกฯ อาจจะชนะเพราะผู้ชุมนุมน่าจะหมดแรงก่อน จึงขอให้นายกฯ อดทนเข้าไว้ และทำความเข้าใจกับประชาชน ดึงคนเห็นต่างมาเป็นพวกให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย