แนะรัฐจัดการโควิด ฟื้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.-คุณหญิงสุดารัตน์” ติงรัฐบาลสื่อสารสับสน กรณีรับนักท่องเที่ยวจีนมา จ.ภูเก็ต แนะรัฐจัดการโควิด ฟื้นเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการโอดยอดจองที่พักตกฮวบ


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รับฟังปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะวิกฤติทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยทำรายได้เข้าประเทศรายได้ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท และทำให้คนอีกกว่า 2 แสนคนมีงานทำ ว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ ต้องทำให้จังหวัดภูเก็ตกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นหลุมหลบภัยจากโควิด-19 ให้คนทั่วโลกมาท่องเที่ยว หรือมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย สิ่งแรก คือ รัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข ด้านการรักษา และป้องกันโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศสร้างความมั่นใจให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติว่าไทยมีระบบควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิ์ภาพ และหากมีการติดเชื้อ ก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยสถานประกอบการสามารถรักษามาตรฐานการป้องกันโควิด-19 ได้ ซึ่งต้องวางระบบการป้องกันในเชิงระบาดวิทยา ซึ่งสามารถควบคุมพื้นที่หากมีการระบาดกรณีฉุกเฉินได้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอเชิญชวนคนที่จะเข้ามาใช้ชีวิตท่องเที่ยวและทำงาน ภายใต้นิยามว่า “Staycation” โดยมีการกักตัวในสถานที่พักผ่อนที่สามารถทำกิจกรรมผ่อนคลาย และทำงานไปพร้อมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุมหากดำเนินการได้ จะสามารถรับคนที่จะมาทำงานได้จากทั่วโลก และเห็นว่าหากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำเร็จ จะสามารถดึงคนเข้ามาทำงาน หรือท่องเที่ยวในระยะยาว เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นหลุมหลบภัยโควิด-19 ได้ ซึ่งภาครัฐอาจต้องอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า รวมถึงการรับรองความปลอดภัย พร้อมเก็บรายได้จากการเข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ


“วันนี้เป็นที่น่าเสียดายที่รัฐยังไม่สามารถออกมาตรการให้ประชาชนเกิดความมั่นใจได้ว่ารัฐมีความพร้อมสำหรับการรับมือโควิด-19 ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การข่าวสารข้อมูลของรัฐบาลต้องนาน ไม่สับสน เช่น 2-3 วันนี้ทราบว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกเข้ามา แต่ก็ถูกเลื่อนมาเรื่อย ก็ยังไม่มีมาตรการว่าเอาเข้ามาแล้ว จะให้อยู่ตรงไหน ทำอย่างไร กักตัวหรือไม่” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ต้องดำเนินการตามมาตรฐานทางด้านการสาธารณสุข ให้คนเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการกำกับควบคุมไม่ให้โรคเกิดการระบาด เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเสนอไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐ เมื่อรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจน จึงสร้างความหวาดกลัวให้คนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยก็ยกเลิกการจอง รายได้ที่คิดไว้ก่อนหน้าจึงหายไป

“เราไปภาคภูมิใจกับความเป็นแชมป์โลก ที่ไม่มีการติดโควิด-19 แต่ถามว่าวันนี้ เราจะรักษาแชมป์การที่ไม่มีคนติดโควิด-19 เลย กับการที่จะทำให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัยกับโควิด-19 แล้วเศรษฐกิจเดินได้ จะเลือกอะไร” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า การให้ข้อมูลของภาครัฐยังสับสน ไม่มีความชัดเจนแน่นอน เช่น กรณีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากจีนที่รัฐบาลจะหวังเป็นข่าวดีในการฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าแต่ละหน่วยงาน แต่ละรัฐมนตรีออกมาประกาศไม่ตรงกัน สร้างความสับสน ต่างคนต่างพูด

“รวมถึงไม่มีมาตรการสร้างความมั่นใจได้เลยว่ารัฐจะมีความสามารถและมีศักยภาพในการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้ จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ตั้งใจที่จะไปเที่ยวที่ภูเก็ตแห่กันยกเลิกที่พัก เพราะกลัวว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามา จะมีการระบาดรอบสองอีกหรือไม่ เมื่อมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาแน่นอนว่าคนไทยต้องการรับนักท่องเที่ยว แต่หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน ก็ต้องกลัวไว้ก่อน สิ่งเหล่านี้จึงเป็น สิ่งที่น่ากังวล” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านนายต่อพงษ์ วงศ์เสถียรชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เลิฟอันดามัน จำกัด สะท้อน 4 ข้อเรียกร้องไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.ให้โครงการเที่ยวไปด้วยกัน ขยายการใช้จ่าย ไม่ใช่แค่สายการบินและโรงแรม แต่ครอบคลุมถึงทัวร์บก ทะเล เรือเฟอร์รี่ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงเกาะต่าง ๆ ด้วย รวมถึงรถเช่าต่าง ๆ ที่จะทำให้คนเที่ยวได้ถูกลง เมื่อดูจากยอดการใช้จ่ายของโครงการจังหวัดภูเก็ตอยู่อับดับ 4 ทั้งที่มีห้องพักมากที่สุด และบาดเจ็บมากที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายเดินทางสูงกว่า 2.โครงการท่องเที่ยวของ อสม.ที่กำหนดให้เที่ยวข้ามจังหวัด มีรถรับส่ง ที่พัก และอาหาร ภายใต้งบประมาณ 2,000 บาททำให้ไม่สามารถไปเที่ยวไกล ๆ ได้ ภูเก็ตจึงไม่ได้รับโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะมาใช้จ่าย ควรยกเลิกเงื่อนไขบางประการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก

3.ธุรกิจต่าง ๆ ตามเกาะปิดตัว เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว เช่น เกาะพีพี ดังนั้นหากเปิดอ่าวมาหยา หรือเกาะตาชัย โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน และกำหนดเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวไปค้างเกาะพีพี และใช้เรือหางยาวชาวบ้าน ซึ่งจะเปิดในลักษณะช่วงเวลาพิเศษให้คนไทยได้ชมความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติในช่วงโควิด ปิดการท่องเที่ยวจากต่างชาติ ถือเป็นการใช้วิกฤติเป็นโอกาส ยกระดับการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานมากขึ้น 4.หน่วยงานราชการทำงานบูรณาการให้มากขึ้น การประชุม ครม.ควรลงมาฟังผลกระทบจริงให้เห็นปัญหาจริง หรือลงไปพักในที่ ๆ เป็นปัญหา หากแก้ไขปัญหาตรงจริงได้เร็ว ก็ช่วยคนที่จะตายได้ง่าย อย่าแบ่งพรรคหรือกลัวเสียหน้าว่านโยบายที่ออกมาดีแล้วแต่ไม่ปรับปรุง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่

เช็กสิทธิ์เงินหมื่น

เช็กด่วนสิทธิเงินหมื่นอายุ 60 ปี ก่อนรัฐบาลกดปุ่มโอนจ่าย 27 ม.ค.นี้

เช็กด่วนสิทธิเงินหมื่นอายุ 60 ปี ก่อนรัฐบาลกดปุ่มโอนจ่ายเช้าวันจันทร์ 27 ม.ค.นี้ รัฐบาลฝากลูกหลานช่วยตรวจสิทธิพ่อแม่ปู่ย่าตายายผ่านแอป “ทางรัฐ” ให้ด้วย

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย