สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 5 ต.ค.- ชาวดอนสำโรง-สุพรรณบุรี ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา ถูกรักษาการเจ้าอาวาสวัดดอนสำโรง ฟ้องร้องอย่างไม่เป็นธรรม หลังรวมตัวไล่ออกจากวัด เพื่อปรับพฤติกรรมไม่โปร่งใส ไม่ใช่กิจของสงฆ์
นายมาตุภูมิ สมชอบ นำชาวบ้านดอนสำโรง อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี มายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังถูกทนายความฝ่ายรักษาการเจ้าอาวาสวัดดอนสำโรงฟ้องร้องอย่างไม่เป็นธรรม สืบเนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการที่กลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวกันแสดงความไม่พอใจกับพฤติกรรมของรักษาการเจ้าอาวาส คือ การปล่อยให้มีการทรงเจ้าเข้าผี ตั้งโต๊ะหมู่บูชาเทพเจ้า เปิดรักษาโรคด้วยการบีบนวดน้ำมันทั้งหญิงชาย การบริหารจัดการภายในวัดที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ใช่รูปแบบคณะกรรมการวัด สร้างความแยกภายในวัด เรื่องการเงินที่ไม่โปร่งใส และการปล่อยให้มีหมาแมวอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไหม้ ชุดพญาเสือเข้ามาจับกุม เพราะปล่อยให้มีโรงเลื่อยในวัด มีไม้หวงห้ามและเครื่องมือที่ผิดกฎหมาย
นายมาตุภูมิ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ชาวบ้านไม่พอใจและรวมตัวกันขับไล่ จนมีการหารือและทำข้อตกลงร่วมกัน โดยขอให้รักษาการเจ้าอาวาสไปจำพรรษาที่วัดอื่นและให้วัดอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าคณะตำบล และปิดกุฎิรักษาการเจ้าอาวาส แต่หลังรักษาการเจ้าอาวาสเดินทางออกนอกพื้นที่ ก็มีหมายศาลมาถึงชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง และฟ้องทุกคนในลักษณะเหมือนเปิดทะเบียนบ้านฟ้อง เพราะเห็นได้จากบางคนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่ได้ไปร่วมคัดค้านก็ยังโดนฟ้อง และข้อหาที่ฟ้องชาวบ้านก็รับไม่ได้ เช่นห้องซ่องโจร ลักทรัพย์ ขัดขวางการบริหารจัดการเกี่ยวกับวัด
“รักษาการเจ้าอาวาสองค์นี้เป็นพระที่ค่อนข้างดื้อรั้น ก่อนที่จะเกิดเรื่อง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ได้เคยตัดเตือนแล้วว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ได้มีการทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในสิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้ภายใน 1 ปี หากทำได้เราจะแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัด ปรากฎว่าก็ทำตามไม่ได้ ไม่ยอมรับและอ้างว่าฝ่ายผู้นำสงฆ์บังคับขู่เข็ญ ในการจำใจลงนาม” นายมาตุภูมิ กล่าว
นายมาตุภูมิ กล่าวว่า มีการร้องเรียนไปที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและศูนย์ดำรงธรรมสุพรรณบุรี ก็ยังไม่พบมีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน จึงต้องมายื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ด้านนางสมศรี กรรณแก้ว หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับหมายศาล เปิดเผยว่า บ้านตนอยู่ใกล้วัด ได้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นจึงถูกหมายศาลทั้งบ้าน เดือดร้อนโดยตรง เพราะตนและลูกสาวต้องมาหาเงินประกันตัว แม้ไปร้องเรียนจากหลายที่แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ อีกทั้งรักษาการเจ้าอาวาสก็ยังดื้อดึง ทำให้ชาวบ้านหมดความศรัทธา ไม่นึกถึงชาวบ้านอายุ 60-70 ปีที่ต้องตื่นตี 4 ตี 5 เพื่อคัดสรรอาหารดี ๆ มาทำบุญตักบาตร ขนาดคนที่ไม่ได้ไปวัดก็ยังได้รับหมายศาล เราแค่ไปแสดงความคิดเห็น ไม่ได้ไปขับไล่ ไม่ได้ไปให้เขาสึก แต่อยากจะให้เขามาเจรจาและทำตามที่ตกลงกัน เมื่อเขาทำไม่ได้ ชาวบ้านก็รับไม่ได้ เขาก็ออกไปจากวัดโดยไม่กลับมา แต่มีหมายศาลมาถึงชาวบ้านทุกวัน ไม่เว้นแต่เสาร์อาทิตย์ .-สำนักข่าวไทย