พล.อ.สนธิ ขอนิรโทษกรรมคดีการเมืองเป็นของขวัญ

กรมสรรพาวุธ ทหารบก 2 ต.ค.- “พล.อ.สนธิ” เปิดใจวันเกิด 74 ปี ขอนิรโทษกรรมคดีการเมืองเป็นของขวัญ สร้างปรองดอง ดักคออย่าทำปฏิวัติ ห่วงหนักกว่าปี 49 ลั่นบ้านเมืองต้องมีสถาบัน ขอคนไทยสำนึกบุญคุณ ฝาก คนรุ่นผู้ใหญ่-คนรุ่นใหม่ มองความเป็นจริง ต้องเข้าใจกันและกัน นำพาประเทศฝ่าวิกฤติโควิด-19 และเศรษฐกิจ


ที่สโมสรกรมสรรพาวุธ ทหารบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวเปิดใจในวันคล้ายวันเกิด 74 ปี ว่า ตนอยากเห็นประเทศชาติมีความเรียบร้อย และมีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ปัญหาที่เป็นไปไม่ได้คือระบบการปกครองของเราที่ไม่เดินตามช่องทางที่ควรจะเป็น และ สังคมไทยยังมีอะไรหลายอย่างที่น่าศึกษา ดังนั้นต้องจัดระเบียบสังคมให้เข้าร่องเข้ารอย จะทำให้ผู้ปกครองสามารถปกครองได้สะดวกและสบายมากขึ้น

พล.อ.สนธิ กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังบริหารงานมาย่างเข้าปีที่ 7 ว่า อยากให้นำบทเรียนทางทหารมาประยุกต์ใช้กับบทเรียนทางการเมือง และต้องกลับมาคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้อะไรคือจุดที่ทำให้มองเช่นนั้น เช่นเรื่องความยุติธรรมเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องเห็นใจว่ากระบวนการยุติธรรม พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ผู้ที่โดนตัดสินก็จะมองความยุติธรรมในเชิงลบ ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมต้องจัดรูปแบบใหม่ เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงกระบวนยุติธรรม ที่ประชาชนสัมผัสได้


พล.อ.สนธิ ยังกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่เยาวชนออกมาชุมนุมว่า ถือเป็นธรรมชาติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีความคิดไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ แต่อย่าไปโทษว่าคนที่คิดต่างจากเราแล้วเขาผิด ในวันนี้คนไทยคิดว่า คนที่คิดต่างนั้นผิด หากมองเช่นนั้นก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ต้องกลับมาดูว่า ความคิดของเด็กกับผู้ใหญ่ แตกต่างกันตรงไหน ในหลายประเทศที่มีความเจริญถึงจุดที่เป็นอันดับ 1 ของโลก ผู้ปกครองจะมีประสบการณ์ตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อเข้ามาเป็นผู้ปกครองก็จะเห็นปัญหา เพราะฉะนั้นเด็กจะมีประสบการณ์ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ผู้ใหญ่ก็มีประสบการณ์ เพียงแต่ ผู้ใหญ่ต้องหันกลับมามองว่าแนวคิดว่าเด็กกำลังคิดอะไร อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูก ต้องมองว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันกับสิ่งที่เด็กคิดได้หรือไม่ ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรมองเด็กให้ถูกและเด็กต้องเข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่เช่นกัน อย่ามองข้ามพื้นฐานของความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ต้องจัดเชื่อมโยงกันถือเป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามถึงข้อข้อเรียกร้องของกลุ่มชุมนุมเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า โลกนี้มีการปกครอง 3 แบบ คือประชาธิปไตย เผด็จการ และสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประเทศเราอยู่มาเป็นพันปี เป็นประเทศไทยได้เพราะสถาบันที่เป็นหลักทำให้ประเทศคงอยู่จนเป็นสยามและไทยในวันนี้ สถาบันมีบุญคุณกับแผ่นดิน ถือเป็นปูชนีย์ทางความคิด เป็นสิ่งที่ต้องยึดเอาไว้ แต่เราต้องมามองว่าประชาธิปไตยและสังคมนิยมจะเอาแบบไหน ตนมองว่าในระบบประชาธิปไตยและสังคมนิยมต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย จึงเสนอการปกครองประชาธิปไตยแบบไทย ๆ และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้เด็กรุ่นใหม่อาจจะมองสถาบันมีประโยชน์ไม่มาก แต่จริง ๆ แล้วให้ย้อนไปในอดีตว่าสถาบันได้สร้างอะไรให้กับประเทศไทยบ้าง เป็นบุญคุณและต้องกตัญญู

เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองปี 2549 ต่างจากปัจจุบันอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า สถานการณ์ในแต่ละห้วงไม่เหมือนกัน จะเอาเหตุการณ์ในเวลาหนึ่ง มาเปรียบเทียบในอีกเวลาหนึ่งไม่ได้ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้มีองค์ประกอบไม่เหมือนกันแต่ปัญหาที่บ่นกันมากคือเรื่องคอร์รัปชั่น เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องมอง และทำให้ประชาชนเห็นว่าที่กำลังเดินไปข้างหน้าจะต้องเป็นองค์ประกอบอย่างไร ทำให้เห็นถึงความโปร่งใส สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่หลายอย่างน่าชื่นชม เช่น การสร้างถนนหนทาง ส่งผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจ สำหรับเรื่องความปรองดอง หากทำกันจริงจังสามารถเกิดขึ้นได้ โดยให้คนที่มีความคิดต่างในแต่ละกลุ่มหันหน้ามาร่วมกัน แต่หากเป็นความผิดพลาดทางการเมืองที่เกิดจากความเห็นต่างแล้วฝ่ายปกครองบอกว่า ผิดกฎหมายและติดคุกอันนี้คือ ต้องนิรโทษกรรม หรือการให้อภัยกับคนที่มีความคิดและความแตกต่างทางการเมือง แต่ถ้าเป็นคดีอาญาก็ต้องแยกกัน ถือเป็นของขวัญที่ตนอยากเห็น


“ผมมองว่ารัฐบาลกำลังเผชิญปัญหาหลายอย่าง ทั้ง โควิด-19 ที่นำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจและก็นำไปสู่ปัญหาความยากจน และความไม่พอใจก็จะเกิดขึ้น ประเทศใดก็ตาม หากการปกครองที่มีทำให้ประชาชนเดือดร้อน ยากจน รัฐบาลสะเทือน ซึ่งวันนี้ไม่ใช่สะเทือนแค่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นทั้งโลก นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำความเข้าใจปัญหากำลังเกิด ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกำลังซ้ำเติม ความจริงเมื่อไม่มีงานทำ จะทำอย่างไร จะเอาเงินให้ก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่จะทำได้แค่ไหนนี่คือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับฝ่ายที่พยายามทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายมากขึ้น” พล.อ.สนธิ กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐประหารในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะมีรัฐประหาร เพราะปัญหาของความขัดแย้งในประเทศก็รุนแรงพอแล้ว ดังนั้นวิธีแก้ก็มีวิธีการอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีรัฐประหาร เพราะไม่เชื่อว่าการปฏิวัติจะใช้แก้ไขปัญหาได้ในเวลานี้ ซึ่งมันหนักกว่าเมื่อปี 2549 เนื่องจากวันนี้ความขัดแย้งสองฝ่ายแย่กว่าเก่า ต้องแก้ไขปัญหาตามที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งถูกต้องแล้ว แต่ต้องอดทนและทำความเข้าใจให้ทุกกลุ่มหันกลับมาคิดและช่วยกัน

เมื่อถามว่า ความวุ่นวายของคน ๆ หนึ่งที่โดนออกนอกประเทศเมื่อปี 2549 จนวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับมา มองว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการพัฒนาหรือลดบทบาทของตัวเองอย่างไรบ้าง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า นายทักษิณอายุอ่อนกว่าตน 3 ปี ปัจจุบันก็ 70 กว่าปีแล้ว ซึ่งก็ต้องมองว่าจะมีความสุขกายสุขใจอย่างไร คงไม่คิดจะสู้ไปถึงปานนั้น ตนคิดว่าคนรุ่นใหม่ที่มีการขับเคลื่อนในทุกวันนี้กำลังมีบทบาทมากกว่า และน่าจะเกิดกับคนรุ่นใหม่

เมื่อถามว่า มองการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะว่าได้ทำประชามติเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่จะต้องมองว่าถึงเวลาหรือยัง เหมาะสมหรือไม่ และจะแก้ประเด็นไหน หรือแก้ได้มากน้อยอย่างไรต้องมานั่งคิดดูรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ นี่คือข้อสำคัญ ซึ่งต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

เมื่อถามว่า ให้คะแนนการทำงานรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กี่คะแนน พล.อ.สนธิ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า สื่ออย่าหาเรื่องให้เลย

เมื่อถามว่าตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันนายทักษิณได้ติดต่อมาหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ถ้าคุณทักษิณเจอผมเขาจะเรียกพี่” เมื่อถามย้ำว่า ได้ติดต่อกันหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ และไม่ได้ติดต่อกันอย่างนั้น แต่เจอกันด้วยกรณีใดก็ตามเขาจะเรียกว่าพี่บัง เขาก็ยังเรียกพี่อยู่ และไม่เคยรื้อฟื้นอดีตมาพูดคุยกัน เขามีมารยาท เป็นผู้ใหญ่ คุยโทรศัพท์ครั้งแรกหลังผมปฏิวัติ ท่านก็บอกว่าผบ.ทบ. ตัวผมเป็นนักกีฬา หมายความว่ารู้แพ้ รู้ชนะ ท่านทักษิณพูดแค่นี้ เข้าใจชัดว่าเกมจบแล้ว ผมมองว่าท่านก็เป็นสุภาพบุรุษ เราจบเตรียมทหารมาด้วยกัน เป็นพี่เป็นน้องตัดกันไม่ขาด จะเกลียดกันแค่ไหน เดี๋ยวก็ดีกัน

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรผ่านสื่อไปยังนายทักษิณหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า œไม่เป็นอะไร ท่านสบายดีกว่าผม เราต้องศึกษาท่านทักษิณว่าทำอย่างไรจึงหนุ่ม ท่านมีอะไรดี ผมกำลังจะหาวิธีเพื่อตามท่านให้ทัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 […]

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]