“วัฒนา” มั่นใจไม่ผิดบ้านเอื้ออาทร

ศาลฎีกา 24 ก.ย.-“วัฒนา เมืองสุข” ไม่กังกวลคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ยันไม่หนี มั่นใจไม่ผิดตามข้อกล่าวหา หลังสู้มา 14 ปี ขอทุกฝ่ายร่วมแก้รธน. พาบ้านเมืองออกวังวนขัดแย้ง


นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มารับฟังคำพิพากษาตามนัดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัฒนา สมัยดำรงตำแหน่งดังกล่าวในรัฐบาลทักษิณ 2
นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมรับฟังคำตัดสินหลังจากสู้คดีมา 14 ปี ผ่านรัฐประหาร 2 ครั้งมี 10 คดี ซึ่งคดีนี้เป็นคดีสุดท้าย สำหรับคดีดังกล่าวเกิดจากรัฐประหารเมื่อปี 2549 จนกระทั่งรัฐประหารเมื่อปี 2557 คดีนี้จึงเข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งไม่ได้มีความสลับซับซ้อน แต่มีพิรุธทุกขั้นตอน พยานรับกลางศาลว่าไม่รู้เรื่องและถูกเรียกให้มาเซ็นชื่อ หากคำพิพากษาในวันนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ตามกฎหมาย จะออกอย่างไรก็ต่อสู้ไปตามครรลอง ส่วนจำเลยอื่น ๆ ไม่ทราบและไม่ได้ติดต่อ

“ผมไม่กังวลคดีนี้ เนื่องจากทุกขั้นตอนทำถูกต้อง ไม่มีเจ้าหน้าที่กระทำความผิด และในรายงานของป.ป.ช.ก็ระบุว่าทุกอย่างทำถูกต้อง ผมถูกตั้งข้อหา 3 ข้อหา ข้อหาแรกอ้างว่าออกทีโออาร์ตามใจชอบ ซึ่งป.ป.ช.ระบุว่าการออกทีโออาร์เพื่อป้องกันความล่าช้าและให้เกิดประโยชน์ ส่วนที่อ้างว่าเอาโควต้าไปขาย ป.ป.ช.ก็ระบุว่าทุกคนที่ขอมาได้รับหมด ส่วนข้อหาที่ 2 อ้างว่าออกทีโออาร์ทำให้การเคหะฯ เสียหาย เพราะซื้อแพงขึ้น ซึ่งป.ป.ช.ระบุว่าไม่ได้ซื้อแพงขึ้น ประชาชนได้ประโยชน์ เพราะราคาที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการต้องไปทำอะไรที่เกิดประโยชน์มากมาย ไม่มีใครได้ประโยชน์ แต่การเคหะฯ ได้ประโยชน์ นี่คือผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. สุดท้ายอ้างว่าผมเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งอัยการรับว่าหาหลักฐานไม่ได้ว่าผมเข้าไปเกี่ยวข้อง และผมได้โพสต์เฟซบุ๊กอ้างอิงหลักฐานต่าง ๆ ยืนยันที่ทำเป็นประโยชน์ จึงไม่คิดจะหนีไปไหน” นายวัฒนา กล่าว


นายวัฒนา กล่าวว่า ขอฝากเรื่องการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน ให้ประชาชนได้เขียนรัฐธรรมนูญของประชาชนเอง บ้านเมืองจะได้หมดยุคการใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือ และหลักนิติธรรมจะได้กลับสู่บ้านเมืองนี้ และว่า “ที่ผ่านมาที่โดนจับและโดนอุ้มก็ต่อสู้ในเรื่องนี้”

เมื่อถามถึงท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวัฒนา กล่าวว่า อยากจะฝากว่าการคืนอำนาจให้ประชาชนไปเขียนกติกาของประชาชนเองเป็นสิ่งที่ชอบธรรม เพราะอำนาจเป็นของประชาชน และไม่ได้เป็นการตีเช็คเปล่าเหมือนกับการที่ส.ว.ออกมากล่าวอ้าง เพราะเมื่อประชาชนร่างเสร็จก็ต้องเข้าสู่รัฐสภา ถ้ารัฐสภาเห็นว่าไม่ดีก็ไม่ต้องรับก็ได้ หรือสุดท้ายก็ต้องไปประชามติ ประชาชนเป็นคนตัดสิน จะไปห่วงอะไร นี่คืออำนาจของประชาชน บางคนอ้างว่าเสียค่าใช้จ่าย บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งมีปัญหา ซึ่งตนเห็นว่าเศรษฐกิจเสียหายมากกว่าการทำประชามติ

“เราจะเสียเงินทำประชามติเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ทำไมจะทำไม่ได้ จะได้ยุติความขัดแย้ง และการให้ประชาชนไปเขียนดีที่สุด เพราะแก้รายประเด็นก็เถียงกันทุกประเด็น สุดท้ายก็ไม่ได้แก้ ก็เอาอำนาจให้ประชาชนไปเขียน เขียนมาอย่างไรก็ยอมรับกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะประชาชนมาจากการเลือกตั้ง ถ้าเรายอมรับกระบวนการนี้มันก็จบ แล้วจะไปหวงอะไรอำนาจที่ว่านั่น ผมว่ามาเอาประเทศออกจากวังวนความขัดแย้ง ซึ่งผมก็เจอด้วยตัวเอง เข้าใจดีว่าเวลาบ้านเมืองไม่มีหลักยุติธรรมเป็นอย่างไร ผมรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ถูกอุ้มถูกเอาไปขังไม่รู้กี่ที ก็สู้กัน มีคดียัดมา ผมมีตั้ง 10 คดี คดีนี้เป็นคดีสุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าจะออกอย่างไร ก็ต้องสู้กันต่อไป”นายวัฒนา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก