ป.ป.ช. 3 ก.ย.- ป.ป.ช.ฟันจริยธรรม “ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” อดีต สส.กำแพงเพชร ครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 โดยไม่ชอบ
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดพันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรณี ยึดถือและครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 งาน 88 ตารางวา ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ
โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ได้เข้ายึดถือและครอบครอง ที่ดินที่ตั้งอยู่บ้านหินชะโงก หมู่ที่ 5 (หรือบ้านปางสามัคคี หมู่ที่ 16 ในปัจจุบัน) ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 งาน 88 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐที่มีไว้เพื่อประโยชน์ในการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไว้ ทำกินตามกฎหมายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และภายหลังจากที่พันตำรวจโท ไวพจน์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสส.และเข้าปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้แล้ว พันตำรวจโทไวพจน์ ยังคงยึดถือและครอบครองที่ดินดังกล่าวเรื่อยมา ทั้งที่ทราบดีว่า ตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะมีสิทธิได้รับการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื่องจากไม่ได้เป็นเกษตรกรหรือประกอบอาชีพ เกษตรกรรมเป็นหลัก และมีเงินเดือนหรือมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่แล้ว
อีกทั้งเมื่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน จังหวัดกำแพงเพชรได้ออกประกาศให้เกษตรกรหรือบุคคลที่ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินเดิม มายื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พันตำรวจโท ไวพจน์ ก็ยังคงเพิกเฉยไม่แจ้งการครอบครอง หรือยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือส่งมอบที่ดินดังกล่าวคืนให้กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม นำไปดำเนินการจัดที่ดินให้กับเกษตรกรหรือผู้มีสิทธิตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป ที่ดินต่อไป การกระทำดังกล่าวของพันตำรวจโท ไวพจน์ จึงเป็นการยึดถือและครอบครองที่ดินของรัฐ ที่มีไว้เพื่อประโยชน์ในการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไว้ทำกินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ป.ป.ช. พิจารณา จึงมีมติว่าการกระทำของพันตำรวจโทไวพจน์เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ฐานกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันมีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 ประกอบข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 27 วรรคสอง และให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 -สำนักข่าวไทย