เชียงราย 28 มิ.ย. – นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ยันรัฐบาลไม่ละเลยประชาชน แนะนำตัว “ลูกพ่อทักษิณ” มาให้กำลังใจและขอกำลังใจกลับไปด้วย กำชับ มท. เร่งเยียวยาโดยเร็ว อย่าให้ประชาชนรอนาน ขณะที่ชาวบ้านบอกให้ “สู้ๆ“ หลังเห็นข่าวโดนด่าโดนว่า




นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ติดตามสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง มีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนางละออง ติยะไพรัช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และยังมีประชาชนสวมเสื้อสีแดง มารอมอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ที่สนามบินอีกด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางต่อไปยังบ้านสบเปา ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายอัครา พรหมเผ่า และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ที่มีรายชื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รายงานสถานการณ์ว่า สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักตังแต่ 02.00-07.00 น. มีชาวบ้านได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอพญาเม็งราย 4,000 กว่าหลัง คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มกลับเข้าสู่ปกติหากวันนี้ฝนไม่ตกเพิ่ม ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ ได้ช่วยเหลือค่าอาหารวันละไม่เกิน 3 มื้อ รวมทั้งถุงยังชีพ, ค่าจัดหาสิ่งของดำรงชีพเบื้องต้น, ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยไม่เกิน 49,500 บาท, ค่าวัสดุซ่อมแซมโรงเรือนเก็บพืชผล/คอกสัตว์, ค่าเครื่องนุ่งห่ม, ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ, ค่าเครื่องครัวและค่าเครื่องนอน ซึ่งตอนนี้มีเงินคงเหลือประมาณ 10.37 ล้านบาท โดยจะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชดเชยเยียวยาและช่วยเหลือในการทำความสะอาดซ่อมแซมประชาชนต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย พร้อมสอบถามถึงความเดือดร้อน ก่อนที่ชาวบ้านจะให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี “ขอให้นายกรัฐมนตรีสู้ๆ ออกข่าวทางทีวี บ่ม่วนใจ โดนด่าโดนว่า เหตุมันเกิดแต๊น่อ (เหตุเกิดจริงๆ)”

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เป็นนายกฯ ก็ต้องโดนแบบนี้เจ้า มาแล้วทุกคนให้กำลังใจก็โอเค” ก่อนที่จะเดินไปเยี่ยมชาวบ้านผู้ประสบภัยอีกหลังหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านได้สอบถามว่านายกฯ ตัวจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีได้บอกว่า “นายกฯ เจ้า ลูกคุณพ่อทักษิณเจ้า”
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยัง ณ วัดสันติคีรี ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้หลักๆ มาให้กำลังใจ เพราะทราบตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 มิถุนายย ตอนกลางคืน และทราบว่าฝนปีนี้ตกหนัก ขอแสดงความเสียใจที่ทุกคนต้องมาเปลี่ยนชีวิตประจำวันที่ดำเนินอยู่ ต้องมาติดขัดฝนตกเยอะ ได้ไปเยี่ยมพี่น้องผู้ประสบภัยบอกว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ปีนี้ฝนมา และยังมีเรื่องของธรรมชาติ ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะไม่ละเลยประชาชน จะดูแลให้กลับมาอยู่สภาพปกติได้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้เห็นประชาชนมาช่วยกันทำความสะอาดบ้านบ้างแล้วต้องขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือกัน และที่สำคัญต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูแลประชาชนอย่างดี รวมถึงรองผู้ว่าฯ นายอำเภอ ตนได้สั่งการเรียบร้อยแล้วให้ดูแลประชาชนอย่างดี ส่วนเรื่องค่าเยียวยาขอให้ดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งเรามีกระทรวงมหาดไทย วันนี้มากันหลายคน จึงฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยฝากดูเรื่องค่าเยียวยาอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องให้รอนาน
“ขอมาให้กำลังใจให้ทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งวันนี้ได้พบปะกันจะมีกำลังใจกันมากขึ้น และหวังว่าวิกฤตินี้จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลเห็นความสำคัญของประชาชนเสมอ วันนี้มาให้กำลังใจมาพูดคุย ขอให้ทุกคนทำตัวสบายๆ ถ่ายรูปเจอกันได้ อย่างน้อยๆ ให้เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตนเองมาที่นี่ก็ได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชนเช่นกันตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว รู้สึกอบอุ่นใจมากๆ ขอมาเป็นกำลังใจและขอรับกำลังใจจากประชาชนด้วย” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทักทายพูดคุยและสอบถามปัญหา โดยชาวบ้านบางส่วนระบุว่าน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมายังไม่ได้ได้รับเงินเยียวยา นายกฯ จึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งไปดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว นอกจากนั้นยังขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เช่น ศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีเดินทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกับประชาชน เพื่อให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง.-316-สำนักข่าวไทย