“ไชยชนก” ฝากถึงนายกฯ วันนี้ “ภูมิใจไทย” ทำแล้ว ท่านทำหรือยัง

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ไชยชนก” โชว์วิสัยทัศน์ ปัญหานํ้าท่วม-โอกาสกู้วิกฤติ กลางเวทีถกงบฯ 69 ฝากถึงนายกฯ วันนี้ “ภูมิใจไทย” ทำแล้ว ท่านทำหรือยัง อวย “อนุทิน” เปิดใจรับฟังเจนวาย-สั่งงานรวดเร็ว

นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ตนอภิปรายด้วยความสบายใจและความภาคภูมิใจ ไม่ใช่เพราะภัยต่างๆ ที่ตนกังวลในรอบที่แล้วจะไม่เกิดขึ้น กลับกัน มันกำลังเกิดขึ้นอีก และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ตนรู้สึกแบบนั้น เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาพูดคุยกับตนด้วยความรัก ความเมตตา และใจที่เปิดกว้าง รับฟังข้อมูลที่ตนนำเสนอ ซึ่งในวันนั้นท่านยังไม่เข้าใจสิ่งที่นักการเมืองเจนวายอย่างตนนําเสนอ แต่ท่านเล็งเห็นความเป็นไปได้ที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบถึงคนไทยอย่างถ้วนหน้า หลังจากนั้น จึงเดินหน้าขับเคลื่อนองคาพยพ ภายใต้การบริหารของพรรคภูมิใจไทย ให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบของเรา เพื่อรับมือถึงความไม่แน่นอนที่คาดการณ์ได้ยาก ทำให้เกิดการประกาศในผ่านหน่วยงานภายใต้นายอนุทินเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ว่าปีนี้ฝนจะมาเร็ว ให้เฝ้าระวังปริมาณน้ำในทุกรูปแบบอย่างใกล้ชิด และในช่วงนั้น ตนได้ขับรถเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์มายังภาคใต้ ทุกพื้นที่ที่ตนแวะ มีการตื่นตัวกับคำประกาศของกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาสังเกตความผิดปกติ ตนเชื่อว่าการประกาศนี้ส่งผลให้เราสามารถรับมือภัยได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น


นายไชยชนก กล่าวต่อว่า จากนั้นนายอนุทิน ได้นำทัพไปที่ จ.อยุธยา ที่เราประมาณการไว้ว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักที่สุด และเรากังวลว่า ภัยน้ำท่วมในปีนี้จะไม่ปกติ เพราะปกติ จ.อยุธยา จะเจอน้ำท่วมในช่วงเดือนกันยายน แต่ข้อมูลในรอบนี้ระบุว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนกับผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา เราก็พบว่าหากสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้เกิดขึ้นจริง จะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน แม้ภัยกำลังจะเกิด แต่ตนมั่นใจว่า นายอนุทินและองคาพยพของภาคภูมิใจไทย กำลังทำทุกสิ่งในความรับผิดชอบอย่างสุดความสามารถเพื่อประชาชน แม้ประชาชนจะเกิดความเสียหายแน่นอน แต่เราจะอยู่เคียงข้างประชาชนต่อไป

“ภัยธรรมชาติไม่มีเลือกข้าง ไม่มีดี ชั่ว ไม่มีคอรัปชั่น ไม่มีแดง ส้ม น้ำเงิน มีแต่จะเกิดขึ้น เราต้องเปิดใจรับฟังธรรมชาติและปรับตัวให้อยู่ได้” นายไชยชนก กล่าว


นายไชยชนก กล่าวต่อว่า ขณะที่ภัยความมั่นคง เมื่อ 11 เดือนที่ผ่านมามีการค้นพบแผ่นแรร์เอริธในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เวลาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่เป็นเพื่อนบ้านที่จริงใจ ต้องมีสติและรู้ก่อนว่าสิ่งที่เผชิญความไม่แน่นอนไม่มั่นคง เศรษฐกิจ ภัยพิบัติ ที่เจอทั่วโลก ดังนั้นต้องเจรจาและบอกว่าสิ่งที่เผชิญกำลังสำคัญที่สุดในการช่วยเหลือได้คือ ทหาร ไม่ใช่เวลารบภัยนอก แต่ต้องใช้กำลังรักษาภายในหากต้องการเจรจาจีนหรือสหรัฐ แร่นี้คือคำตอบ แต่ต้องทำอย่างระวัง เพราะเราเลือกข้างไม่ได้

“ไม่มีทางที่การทำเหมืองแร่หายากไม่ส่งมลพิษต่อประชาชน ผมอยากฝากให้ประชาชนระวัง อย่าตายใจ ข้อสรุปโดยหลายสิ่งที่ได้อภิปรายและหลายสิ่งที่สส.อภิปรายมีสิ่งเดียวที่มั่นใจในปีหนี้ ผลกระทบของวิกฤตจะมากขึ้นและเกินคาดหมาย สิ่งที่ทำได้ในสภาฯ ในวาระสอง คือ เตรียมพร้อมสร้างความยืดยุ่นในการใช้งบประมาณปีหน้าเพื่อรับมือสิ่งที่ไม่แน่อนให้ได้” นายไชยชนก กล่าว

นายไชยชนก กล่าวว่า ตนฝากกำลังไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะนักการเมืองเจนวาย ด้วยความเห็นใจ เพราะตนเป็นคนที่ทั้งสังคม ส.ส. และครอบครัวเข้าใจผิดหลายรอบ ตนเห็นใจที่วันนี้ สังคมหลายส่วนผูกการอยู่ในตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในประเทศของนายกฯ และครอบครัว ไปกับภัยพิบัติ


“เหรียญมีสองด้านเสมอ และท่านเลือกทางเดินเองเสมอ สิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่หายนะ แต่คือโชคชะตา เมื่อช่วงเกิดสึนามิ สมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงงบส่วนกลางที่ต้องมากขึ้น ทำให้ภายใต้การบริหารประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีงบกลางมาก เยวยาช่วยเหลือประชาชนจากภัยน้ำท่วมและได้บทเรียน ว่า การไม่ใช้ก่อน แต่ใช้หลัง ประชาชนสูญเสีย สถานการณ์ที่เห็นคือ ประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนเป็นวีรสตรีไทย อยู่ที่ว่าจะเลือกทางไหน ไม่ว่าเลือก ผมและ ส.ส.ภูมิใจไท และนายอนุทิน พูดด้วยความภาคภูมิใจ ทำทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้อำนาจหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยและทำต่อไป คำถามเดียวที่จะฝากไปคือ พวกเราทำแล้ว พวกท่านทำแล้วหรือยัง” นายไชยชนก อภิปราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยก่อนการอภิปราย นายไชยชนก กล่าวว่า ขอเรียกร้อง ตนอยากให้ผู้รับฟัง กดหยุด ตรวจสอบข้อมูลที่นำเสนอเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด น้อมรับเจตนาดีๆ ของ สส.ในพรรคตนและพรรคอื่นที่ห่วงเรื่องชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และขอบคุณ สส.พรรคฝ่ายค้าน ที่มอบเวลาที่เหลือให้ใช้ ตนจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่าเพื่อประโยชน์สูงสุด

นายไชยชนก ยังชี้แจงต่อกรณีที่มีผู้อภิปรายถึงการใช้งบประมาณซ้ำซ้อนในกิจกรรมคัลเลอร์ออฟบุรีรัมย์ บูรณาการภาครัฐ เอกชน ประชาชนคนบุรีรัมย์รวมพลัง จัดงาน 30 วัน โดยให้ช่างทอผ้าทั่วประเทศ 110 ร้านค้าเข้าร่วมและร้านอาหารเด็ด 110 ร้าน มูลค่าขายผ้า 50 ล้านบาท และคิดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จำนวนมาก ทั้งนี้ภคเอกชนไม่มีการเก็บค่าเช่า ค่าคอมมิชชั่นการค้าขาย ฝากไปถึงคนที่มีส่วนร่วมทำให้งานดังกล่าวเกิดขึ้น ตนภูมิใจอย่างยิ่งที่เป็นส่วนเล็กๆ ที่สร้างความสำเร็จ และเพื่อความมั่นใจกับคนที่ให้ความสำคัญกับคราฟท์ไทย ตน น้องสาว ประชาชนและ สส.พรรคภูมิใจไทยเห็นความสำคัญ พร้อมสนับสนุนต่อไป แม้ว่าจะไม่มีงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย