รัฐสภา 29 พ.ค.- “จุลพันธ์” เผย นายกฯ มอบคลัง หารือ คณะที่ปรึกษานายกฯ ที่บ้านพิษณุโลก รับมือ หลังศาลสหรัฐสั่งเบรกมาตรการภาษีทรัมป์ ยัน ไทยไม่ใกล้เคียงกับการเป็น “รัฐล้มเหลว” มองเป็นเพียงโวหารทางการเมืองเท่านั้น
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลมีการทบทวนการจัดทำงงบประมาณปี 69 ให้ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาขึ้นภาษีของสหรัฐ ว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี เป็นการทำงบแบบคาดการณ์ว่า ใน 1 ปีงบประมาณจะมีโครงการใดบ้าง และจะจัดสรรงบประมาณอย่างไรให้เกิดความเหมาะสมที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่า อาจจะมีความเคลื่อนอยู่บ้างถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ และคณะรัฐมนตรีไม่สามารถดึงงบประมาณกลับไปพิจารณาปรับแก้ก่อนส่งกลับมาที่สภาได้ เพราะจะทำให้กระบวนการพิจารณางบประมาณไม่ทัน และไม่สามารถประกาศใช้งบประมาณได้ทัน 1 ต.ค. รัฐบาลจึงจำเป็นต้องผลักดันร่างงบประมาณเข้าสู่ที่ประชุมสภาตามปกติ
“ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกสภาพว่า หากเกิดเหตุการณ์ Trade War จากประธานธบดีทรัมป์ ไปเกิดในช่วงปลายกันยายน แล้วงบประมาณที่ผ่านพิจารณาไปแล้ว ทุกอย่างต้องมาชะงักติดขัดเพื่อมาปรับแก้มันไม่ใช่ เพราะนี้คือความฉลาด และถูกต้องของผู้ร่างพระราชบัญญัติในเรื่องเกี่ยวกับวิธีการงบประมาณที่ทำเอาไว้ นั่นคือ กระบวนการงบประมาณมีความยืดหยุ่น และมีขั้นตอนสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้” นายจุลพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่องบประมาณผ่านวาระ 1 แล้ว ก็สามารถไปปรับแก้งบประมาณในชั้นของกรรมาธิการได้ เพื่อทำให้งบประมาณมีเหมาะสม ตอบโจทย์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีศาลสหรัฐ มีคำสั่งให้ระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรียกเก็บเป็นวงกว้างต่อสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยอยู่ที่บ้านพิษณุโลก ว่า เมื่อมีคำสั่งศาล เราต้องมีการปรับเปลี่ยน รองรับกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ต้องดำเนินการอย่างไร เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ แต่ในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ทางรัฐบาลก็ยินดีรับฟังข้อเสนอการปรับเปลี่ยนงบประมาณที่เป็นประโยชน์จากทุกพรรคการเมือง
ส่วนที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่า ประเทศไทยมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเป็นรัฐล้มเหลว (failed state) นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ไทยไม่ได้มีความใกล้เคียงกับการเป็นรัฐล้มเหลว ซึ่งไทยยังควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างครบถ้วน ไม่มีสงครามการเมือง ไม่มีการบุกรุกพื้นที่ตามแนวชายแดน ซึ่งก็ต้องเชื่อว่า ทางฝ่ายค้านก็ทราบดีว่าไม่ใช่ และไม่มีความใกล้เคียงใดๆ เป็นเพียงโวหารทางการเมือง จึงอยากให้รับผิดชอบในคำพูด เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้น จะมีมุมมองเชิงลบจากภายนอกที่มองเข้าในสภา
“ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่อย่าใช้รัฐล้มเหลว มันไม่ถูกต้องและไม่ใกล้เคียง” นายจุลพันธ์ กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย